“เบทาโกร” ทุ่มงบ 100 ล้าน เปิดแคมเปญ S-Pure
วางเป้าหมายยอดขายโต 17% ตอกย้ำการเป็น
ผู้นำตลาดอาหารซุปเปอร์พรีเมี่ยม
(100% NATURAL PURE PRODUCT) ปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะ ไม่ใช้ฮอร์โมนและไม่มีสารเร่งการเจริญเติบโต
โดยมีภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของ S-Pure ที่มุ่งเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพและมีไลฟ์สไตล์ในการใช้ชีวิตเพื่อการมีสุขภาพดี โดยวางเป้าหมายยอดขายแบรนด์ S-Pure โต 17% เมื่อเทียบกับปี 2565 ที่ผ่านมา ตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดอาหารซุปเปอร์พรีเมี่ยม
ดร.โอลิเวอร์ ก็อตชัลล์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจอาหาร บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า จากข้อมูลคาดการณ์ว่าในปี 2566 ตลาดอาหารซุปเปอร์พรีเมี่ยมจะมีมูลค่าอยู่ที่ 57,100 ล้านบาท โดยมีปัจจัยมาจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซื้อเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้นประมาณ 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา กอปรกับแรงหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ
การบริโภคและภาคการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มดีขึ้น รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคหลังสถานการณ์โควิด-19 ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น ทั้งสุขภาพกายและจิตใจ เลือกอาหารที่มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัยสูง จากแหล่งผลิตที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับและเชื่อถือได้ ทั้งยังตระหนักและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม เพื่อการบริโภคที่ยั่งยืน ดีต่อโลกและต่อตัวเอง
การเปิดตัวแคมเปญการตลาดใหม่ของ S-Pure ในครั้งนี้จึงมาพร้อมกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ "S-Pure Prime" เนื้อสัตว์แปรรูปสไตล์โฮมเมด ประกอบด้วย ไส้กรอกเวียนนา, เบคอนหมูรมควัน, พอร์คลอยน์แฮมรมควัน, โบโลญ่าหมู และโบโลญ่าไก่ ที่ถูกรังสรรค์ความอร่อยจากธรรมชาติอย่างพิถีพิถัน ปราศจากการแต่งเติมสารเคมี รวมถึงสารปรุงแต่ง สารกันบูด ผงชูรส วัตถุเจือปนอาหาร และยังใช้ช้วัตถุดิบจากเนื้อหมู เนื้อไก่ S-Pure 100% นับเป็นผลิตภัณฑ์ “อาหารฉลากสะอาด (Clean Label) รายแรกในประเทศไทย” อีกด้วย
ที่สำคัญ S-Pure ยังเป็นแบรนด์แรกของไทยที่นำบรรจุภัณฑ์ถาดกระดาษ (Paper Tray) มาใช้กับกลุ่มสินค้าอาหารสด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ ซึ่งถาดกระดาษผลิตจากต้นยูคาลิปตัสที่มาจากป่าปลูก 100% มีคุณสมบัติการใช้งานเทียบเท่าถาดพลาสติก (Forest Stewardship Council) สามารถลดการใช้พลาสติกได้ถึง 80% พร้อมดีไซน์บรรจุภัณฑ์โฉมใหม่ ด้วยภาพลักษณ์ทันสมัย สะท้อนถึงการเป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ สดใหม่ มีความปลอดภัย
“เบทาโกรมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอาหารที่มีคุณภาพมากกว่า ปลอดภัยสูงกว่า ในราคาที่เป็นธรรม เพื่อให้เข้าถึงลูกค้าและผู้บริโภคทุกกลุ่มในวงกว้าง เราภูมิใจที่ S-Pure ได้รับการรับรองจาก NSF สหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นแบรนด์แรกและหนึ่งเดียวของไทยที่ได้รับการรับรองการเลี้ยงที่ไม่มียาปฏิชีวนะ (Raised Without Antibiotics – RWA) ครบทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ และจากผลวิจัยผู้บริโภค พบว่า S-Pure เป็นแบรนด์ที่สามารถครองใจผู้บริโภคมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีฐานผู้บริโภคที่มีความภักดีในตราสินค้า (Brand Loyalty) มากกว่า 50% (Quality advocacy Index) สะท้อนถึงการเป็นผู้นำตลาดอาหารซุปเปอร์พรีเมี่ยมที่ผู้บริโภคไว้วางใจอีกด้วย”
นอกจากนี้ ในแคมเปญการตลาดยังมีกิจกรรม “S-Pure The Natural Way” ที่พร้อมยกขบวนศิลปินดาราชื่อดังมาแชร์เคล็ดลับ
การดูแลสุขภาพและสาธิตการทำอาหาร รวมถึงกิจกรรมพริวิเลจ พิเศษ! สำหรับลูกค้า S-Pure เร็ว ๆ นี้ การเปิดตัวแคมเปญ S-Pure ในครั้งนี้จึงไม่เพียงตอกย้ำการเป็นผู้นำตลาดอาหารซุปเปอร์พรีเมี่ยม ยังเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนดำเนินชีวิต ด้วยการดูแลสุขภาพด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างเป็นธรรมชาติ (Healthy Lifestyle Inspiration) เพื่อคุณภาพชีวิตของทุกคนที่ยั่งยืน ตอกย้ำจุดแข็งของ
เบทาโกรในฐานะผู้ผลิตอาหารที่มีคุณภาพและมีความปลอดภัยในระดับสูงสุด เราคาดว่ายอดขาย S-Pure จะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ และจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันยอดขายของเบทาโกรให้เติบโตตามเป้าหมายเพื่อก้าวสู่แบรนด์ธุรกิจอาหารชั้นนำระดับโลกต่อไป”
ดร.โอลิเวอร์ กล่าวทิ้งท้าย
S-Pure มีวางจำหน่ายที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต และไฮเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำ รวมถึงเบทาโกรช็อป เบทาโกรเดลี่ และแพลตฟอร์มออนไลน์ อาทิ Freshket, Grab, Lineman และ Robinhood
เกี่ยวกับบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน)
เบทาโกร ผู้ประกอบธุรกิจอาหารและเกษตรอุตสาหกรรมชั้นนำระดับสากล ดำเนินธุรกิจเพื่อส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพมากกว่า ความปลอดภัยสูงกว่า ในราคาที่เป็นธรรม เพื่อชีวิตที่ยั่งยืน ครอบคลุมตั้งแต่การผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ เวชภัณฑ์และสารเสริมสำหรับสัตว์ ปศุสัตว์ ผลิตภัณฑ์เนื้อหมู เนื้อไก่ และไข่ไก่ อาหารแปรรูปที่เกี่ยวข้อง และอาหารสัตว์เลี้ยง รวมถึงการจัดจำหน่ายอุปกรณ์ฟาร์ม และการดำเนินงานด้านการค้นคว้าวิจัยและพัฒนาที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้บริษัทฯ มุ่งสู่การเติบโตภายใต้ ‘World-Class Branded Food Company’ ที่มีผลิตภัณฑ์และบริการครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การเพาะเลี้ยงและจำหน่ายพ่อแม่พันธุ์สัตว์ การทำฟาร์มเชิงพาณิชย์ การชำแหละและแปรรูปเนื้อสัตว์ ไปจนถึงการขาย โรงงานผลิตและแปรรูปอาหารที่มีมาตรฐานสูงและมีประสิทธิภาพ รวมถึงการวิจัยและพัฒนา อีกทั้งยังเน้นการติดตามและควบคุมคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ ภายใต้ระบบการจัดการคุณภาพเบทาโกร (Betagro Quality Management - BQM) รวมถึงมาตรการความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosecurity) ขั้นสูงที่ได้การรับรองและเป็นที่ยอมรับ ตามมาตรฐานสากล
ติดตามข่าวสารล่าสุดของเบทาโกรได้ที่ Facebook Betagro Group, LinkedIn Betagro Group, YouTube Betagro Group และ www.betagro.com
No comments:
Post a Comment