"UNFOLDING BANGKOK" ภายใต้ธีม 'Living Old Building & Greeting Benjakitti' ชมอาคารเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และงานศิลป์กลางสวนป่า - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Saturday 11 March 2023

"UNFOLDING BANGKOK" ภายใต้ธีม 'Living Old Building & Greeting Benjakitti' ชมอาคารเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และงานศิลป์กลางสวนป่า



"UNFOLDING BANGKOK"
ภายใต้ธีม 'Living Old Building & Greeting 
Benjakitti' ชมอาคารเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และงานศิลป์กลางสวนป่า
18 มีนาคม – 30 กันยายน 2566 นี้

CEA ร่วมกับภาคีเครือข่าย เปิดโปรแกรมต่อเนื่องชวนเที่ยวแบบใหม่กับ "UNFOLDING BANGKOK" เปิดประสบการณ์กรุงเทพมหานคร หลังจากประสบความสำเร็จ กับโปรแกรมท่องวัดลับ 'Hidden Temple' ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคม 2565 ในปีที่ผ่านมา สำหรับ "UNFOLDING BANGKOK" ซีซั่น 2 และ 3 นี้ ชวนทุกคนย้อนวันวานกับอาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ให้กลับมามีสีสันอีกครั้ง พร้อมเที่ยวสวนป่ากลางเมือง สร้างสัมพันธ์ระบบนิเวศระหว่างผู้คนกับธรรมชาติ คาดกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาท และต่อยอดโมเดลต้นแบบการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อนำไปปรับใช้ในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วกรุงเทพต่อไป

#UnfoldingBangkok มัดรวมทั้ง 2 ธีม ได้แก่ 'Living Old Building' การเปิดพื้นที่อาคารประวัติศาสตร์ที่ลดบทบาทการใช้งานถูกสร้างสรรค์ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผ่านการออกแบบ
ไฟส่องสว่างลงบนสถาปัตยกรรม (Architectural Lighting) และ Projection Mapping พร้อมกับการแสดงดนตรีที่คัดสรรมาให้สอดคล้องกับการเป็นชุมทางของนักเดินทาง ณ สถานีรถไฟ
หัวลำโพง และชมแสงสีจาก 'กาลเปลี่ยนผ่าน' ทั้ง 'ความกลัว-ความฝัน-ความหวัง' ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พร้อมกิจกรรมสุดพิเศษ ณ วังกรมพระสมมตอมรพันธ์ และ 'Greeting Benjakitti' ชมงานศิลปะซึมซับธรรมชาติใจกลางสวนป่าเบญจกิติ ในรูปแบบผลงานศิลปะจัดวาง (Art Installation) ฮีลลิงจิตใจและธรรมชาติ พร้อมเวิรก์ช็อป และการแสดงศิลปะ (Performing Art) เพื่อฟื้นฟูและบำบัดสุขภาพกายและใจให้แข็งแรงไปพร้อม ๆ กัน ดำเนินการ
โดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ร่วมกับ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กรุงเทพมหานคร และ สำนักงานส่ง
เสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) ระหว่างวันที่ 18 มีนาคม - 30 กันยายน 2566

เปิด 2 ธีมหลัก 'Living Old Building & Greeting Benjakitti' มีอะไรบ้าง

1. Living Old Building - ชุบชีวิต 4 อาคารเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์อย่างสร้างสรรค์

การจัดแสดงงานโดยนำอาคารเก่าที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์มาเล่าในรูปแบบใหม่ ให้กลายเป็น
พื้นที่สันทนาการสำหรับทุกคน ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยี โดยแบ่งออกเป็น 4 พื้นที่ ได้แก่

1. ประปาแม้นศรี 2. หอประติมากรรมต้นแบบ กรมศิลปากร วันที่ 4 - 12 กุมภาพันธ์ ภายใต้เทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ 2566 ที่ผ่านมา 3. สถานีรถไฟหัวลำโพง คืนความมีชีวิตกลับสู่สถานที่เก่า อันเป็นมุดหมายสำคัญของนักเดินทางจากทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 18 - 26 มีนาคม 2566 และ 4. วังกรมพระสมมตอมรพันธ์ วังที่ถูกซุกซ่อนอยู่ในย่านชุมชนเก่าซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ และถือเป็นวังที่มีโครงสร้างแสดงถึงเอกลักษณ์ของวังในยุคสมัยนั้นได้สมบูรณ์ที่สุด ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 2 เมษายน 2566

1) สถานีรถไฟหัวลำโพง
วันที่ 18 - 26 มีนาคม 2566
เวลา 16.00 - 22.00 น.

พื้นที่สถานีรถไฟที่เคยเป็นมุดหมายของการเดินทางจากผู้คนทั่วประเทศมายังกรุงเทพมหานคร ที่แม้ว่าปัจจุบันจะลดการใช้งาน เหลือเพียงรถไฟไม่กี่สาย แต่สถานีรถไฟหัวลำโพงยังคงความสำคัญในฐานะอาคารที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ทั้งด้านสถาปัตยกรรม และความทันสมัยด้านระบบคมนาคมของประเทศไทยในอดีต ด้วยบทบาทที่เปลี่ยนไปของสถานีรถไฟหัวลำโพง จึงเป็นโอกาสในการทดลองปรับพื้นที่ของสถานีรถไฟให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการส่งเสริมสถาปัตยกรรม การเรียนรู้และสันทนาการของผู้คน ผ่านการออกแบบแสงไฟ (Lighting Installation) ให้ช่วยสร้างเรื่องราวและขับเน้นความงามของสถาปัตยกรรม พร้อมกับการแสดงดนตรีที่ถูกคัดสรรมาให้สอคคล้องกับการเป็นชุมทางของคนเดินทาง รวมไปถึงโปรแกรมทัวร์ที่จะช่วยให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่าของสถานีรถไฟหัวลำโพง

พบกับ 3 กิจกรรมไฮไลต์

1. THE WALL 2023 โดย Lighting Designers Thailand และ DecideKit การจัดแสดงไฟ (Lighting Installation) เพื่อแสดงถึงการเป็นพื้นที่ส่งเสริมสถาปัตยกรรม และเล่าถึงบทบาทที่เปลี่ยนไปของสถานีรถไฟหัวลำโพง ซึ่งการแสดงไฟยังช่วยขับเน้นความสวยงามของสถาปัตยกรรมตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ใน 3 พื้นที่ ได้แก่

- 1st Scene : The Door กระจกทรงโค้ง ณ บริเวณประตูทางเข้าสถานีรถไฟที่เป็นแลนด์มาร์คของสถานีเมื่อถูกมองจากด้านนอก ถูกนำมาใช้เป็นฉากเริ่มต้นในการเดินทางเพื่อเข้าสู่พื้นที่ภายใน ที่สะท้อนจินตนาการของผู้คน เปรียบเสมือนการเดินทางที่จะเกิดขึ้น
- 2nd Scene : The People จัดแสดงภายในโถงอาคารของสถานีรถไฟในส่วนที่พักคอยของผู้โดยสารที่เรียบง่าย ได้รับการออกแบบแสงให้เป็นพื้นที่สำคัญ "ผู้คน" ที่มานั่งเล่น ชมดนตรี และชื่นชมความงามของอาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้
- 3rd Scene : The Emotion บริเวณชานชาลา พื้นที่แห่งการพบปะและจากลา เป็นอีกพื้นที่ที่แสงไฟจะช่วยสร้างอารมณ์ร่วมในการพบและจากของผู้คนในอดีตที่เคยโดยสาร พร้อมจัดแสดงรถไฟหัวรถจักรไอน้ำที่ผ่านกาลเวลามาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2

2. ดนตรี ความบันเทิงของคนเดินทาง การจัดแสดงดนตรีเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับพื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยความหลากหลายและเพื่อให้เข้ากับบริบทของสถานีรถไฟหัวลำโพง จึงมีการแสดงดนตรีหลากหลายประเภท อาทิ ลูกทุ่ง ลูกกรุง หมอลำ ร็อค ฮิบฮอป และแจ๊ส เป็นต้น โดยจะจัดแสดงระหว่างวันที่ 18-19 มีนาคม และ 24-26 มีนาคม 2566 เวลา 16.00 - 21.00 น.

3. ทัวร์ย้อนเวลาศึกษารถไฟ โดยกลุ่มคนรักรถไฟและวิทยากรจากการรถไฟแห่งประเทศไทยร่วมนำทัวร์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมาของรถไฟไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

2) วังกรมพระสมมตอมรพันธ์
วันที่ 25 มีนาคม - 2 เมษายน 2566

อาคารประวัติศาสตร์ที่ถูกซุกซ่อน เนื่องจากอยู่ในตรอกแคบ ๆ ภายในชุมชนวังกรมพระสมมตอมรพันธ์ แต่ยังคงความสมบูรณ์แบบของสถาปัตยกรรมในยุคสมัยนั้น โดย CEA ร่วมมือกับ Urban Ally และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้นำพื้นที่แห่งนี้มาเปิดให้ได้ชมความงาม พร้อมบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์และชุมชนโดยรอบที่เคยเป็นแหล่งผลิตเครื่องสังฆภัณฑ์ใหญ่ของกรุงเทพฯ

2. Greeting Benjakitti - ฟื้นฟูจิตใจผ่านศิลปะและธรรมชาติใจกลางสวนป่า

การจัดแสดงงานศิลปะเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ พร้อมกระตุ้นการเรียนรู้และตระหนักถึงคุณค่าของสวนป่าเบญจกิติ ต้นแบบสวนสาธารณะเชิงนิเวศแห่งแรกของกรุงเทพฯ โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบกิจกรรม ได้แก่ 1. ผลงานศิลปะจัดวาง (Art Installation) จำนวน 5 ชิ้นงาน และ 2. การแสดงศิลปะ (Performing Art) และกิจกรรมเวิรก์ช็อปต่าง ๆ

พบกับกิจกรรมไฮไลต์

1. ผลงานศิลปะจัดวาง (Art Installation) คิวเรเตอร์ โดย อังกฤษ อัจฉริยโสภณ การจัดแสดงผลงานศิลปะจำนวน 5 ชิ้นงาน ที่สะท้อนบริบทของสวนป่าเบญจกิติ ในแง่มุมสร้างความเข้าใจในการอยู่ร่วมกันระหว่างผู้คน สิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตต่างสายพันธ์ุ ระหว่างวันที่ 18 มีนาคม - 30 กันยายน 2566 เวลา 05.00 - 21.00 น.The Center of the Universe โดย อรรถพร คบคงสันติ การออกแบบศิลปะที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับผลงานผ่านการออกแบบกล้องคาไลโดสโคปด้วยดีไซน์ใหม่ เป็นการสร้างแสงสีและมิติที่หลากหลาย ช่วยส่งเสริมในการมองสวนเบญจกิติในมุมมองที่แปลกใหม่ ตามช่วงเวลาและทิศทางในการมองของแต่ละคน

Stingless Bee City โดย วิชญ์ พิมพ์กาญจนพงศ์ การออกแบบเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยใจกลางเมืองของผึ้งชันโรง (Stingless bee) ที่มีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูระบบนิเวศในเมือง และสร้างผลผลิตให้กับพืชเศรษฐกิจ ด้วยสวนเบญจกิติมีผึ้ง 'ชันโรง' อาศัยอยู่ปกติทั่วไป ศิลปินจึงได้สร้างรังขึ้นมาให้ชันโรงได้ทดลองเข้ามาอยู่อาศัย เพื่อให้เกิดประโยชน์กับวงจรทางธรรมชาติโดยรอบสวน การออกแบบศิลปินได้แรงบันดาลใจ จากรูปทรง "ผึ้งน้อยธานี" จากระเบียบการเรียงตัวของเกสรดอกไม้และผลไม้ ที่พบเห็นในธรรมชาติ นำมาจัดวางซ้อนกันในทางตั้ง เปรียบเสมือนกับอาคารย่านธุรกิจและที่อยู่
อาศัยที่รายล้อมรอบสวนเบญจกิติ เป็นสัญลักษณ์ของการยอมรับและให้เกียรติแมลงขนาดเล็ก อย่างผึ้ง 'ชันโรง' ว่าเป็นสมาชิกสำคัญของเมืองใหญ่

Hornbill Villa โดย นีโน่ สุวรรณี สาระบุตร ผลงานจัดแสดงเครื่องปั้นดินเผาจำนวน 200 ชิ้น ที่ถูกออกแบบเพื่อเป็นรังเทียมให้แก่นกเงือกซึ่งใช้โพรงไม้สำหรับเป็นที่อยู่อาศัย โดยได้แรงบันดาลใจมาจากการตัดไม้ทำลายป่าที่มีผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยของนกเงือกโดยตรง ศิลปินได้ร่วมกับชุมชนช่างปั้นครกดินเผา จังหวัดนครพนม ในการรังสรรค์ชิ้นงานและนำมาจัดวางในสวนป่ากลางเมือง เพื่อสร้างความตระหนักรู้และความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ และเพิ่มพื้นที่พักพิงอาศัยที่ปลอดภัยให้แก่นกและสัตว์อื่น ๆ ในสวนเบญจกิติ

The Circle โดย สุริยะ อัมพันศิริรัตน์ การจัดแสดงผลงานโดยการนำต้นข้าวมาเรียงตัวกันในรูปแบบของวงกลม เป็นการแสดงสัญลักษณ์ของเวลาใน 1 วันมี 24 ชั่วโมงที่สัมพันธ์กับการโคจรของดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญ เกิดเป็นวัฏจักรการ
เติบโตของต้นข้าว ที่เปลี่ยนพลังงานแสงอาทิตย์เป็นอาหารหล่อเลี้ยงตนเองด้วยกระบวนการสั่งเคราะห์แสง และกลายเป็นข้าวที่หล่อเลี้ยงชีวิตมนุษย์และเป็นอาหารหลักของคนไทย

House of Silence โดย สนิทัศน์ ประดิษฐ์ทัศนีย์ ศิลปะการออกแบบพื้นที่ที่เหมือนกับบ้าน โดยเปิดให้ผู้เข้าชมได้มีเวลาอยู่กับตัวเอง คิด ทบกวน และสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบตัว ผ่านแสงสว่างที่ตกกระทบและเงาที่ส่องสะท้อน ช่วยสร้างมิติ
ลวงตาให้เกิดจุดสมดุล ระหว่างการมีอยู่ของสรรพสิ่งกับความว่างเปล่าภายนอกและความรู้สึกภายในจิตใจ

2. ศิลปะการแสดง (Performance Art) และเวิร์กช็อป โดย สมาคมการค้าส่งเสริมอุตสาหกรรม
ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย และเครือข่ายพันธมิตร ภายใต้แนวคิด "COHABITAT" สะท้อนการอยู่
ร่วมกันอย่างเกื้อกูล สร้างสรรค์ และเป็นมิตรระหว่างผู้คน กับธรรมชาติ ให้ผู้ร่วมงานมีส่วนร่วม
กับการสำรวจพื้นที่สวนป่า สิ่งแวดล้อม เพลิดเพลินกับโปรแกรมดนตรี เต้นรำ โรงละคร บทกวี
การแสดงตลก และเวิร์กช็อปศิลปะสำหรับทุกวัย ระหว่างวันที่ 18 มีนาคม - 23 เมษายน 2566 เวลา 16.00 - 19.00 น.

พบกับไฮไลต์ *กิจกรรมมีเฉพาะวันเสาร์ และ อาทิตย์

Street Show โดย Bangkok Street Show
Benjakitti Sound Project โดย LAB 5 SOUNDWORKS
Yesterday Performance โดย ธนกฤต การะมัด และ ธันยธร จันเสถียร
THAI FIT EXERCISE โดย ดิว-ขจิตธรรม พาทยกุล
เวิร์กช็อป Mandala จากสีดิน โดย สุพจน์ คุณานุคุณ
Painting With Soil And Plants โดย Cherry Theatre โรงละครเพื่อการพัฒนา

ติดตามกิจกรรมต่อเนื่องของ "UNFOLDING BANGKOK" ในธีม 'Greeting Benjakitt' สวนป่าเบญจกิติ วันที่ 18 มีนาคม - 30 กันยายน 2566 และชมอาคารที่เปี่ยมไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ ในธีม "Living Old Building" สถานีรถไฟหัวลำโพง วันที่ 18 - 26 มีนาคม 2566 และ วังกรมพระสมมตอมรพันธ์ วันที่ 25 มีนาคม - 2 เมษายน 2566 ได้ที่ www.cea.or.th/th/projects และ www.facebook.com/CreativeEconomyAgency
#unfoldingbangk
เกี่ยวกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน)
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน): สศส. หรือ Creative Economy Agency (Public Organization): CEA จัดตั้งขึ้นเมื่อ 14 สิงหาคม 2561 โดยการยกระดับ TCDC ขึ้นเป็นองค์การมหาชน ในการกำกับดูแลของสำนักนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพื่อให้เป็นพลังขับเคลื่อนไปสู่เศรษฐกิจที่สมดุลและยั่งยืนในระยะยาว หนึ่งในภารกิจที่สำคัญของ CEA คือการสร้างย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้เกิดขึ้นจริง โดยการส่งเสริมและพัฒนาพื้นที่ที่เอื้อต่อบรรยากาศสร้างสรรค์และการเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ตลอดจนมีความตั้งใจที่จะเชื่อมโยงสู่ชุมชนโดยรอบให้ใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ CEA ยังทำหน้าที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ให้เติบโตจากการพัฒนาศักยภาพและเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นเครื่องมือยกระดับธุรกิจและคุณภาพชีวิตของคนไทย


No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์