อาจารย์
มทร. พร้อมด้วยทีมวิจัย พบจิ้งจกหินชนิดใหม่ของโลก “จิ้งจกหินวงจันทร์”
ครั้งแรกของโลกกับการค้นพบ
“จิ้งจกหินวงจันทร์" (Gehyra wongchan
Pauwels, Meesook, Kunya, Donbundit & Sumontha, 2022)
ซึ่งค้นพบโดยทีมวิจัยที่ทำการสำรวจสัตว์เลื้อยคลานบริเวณเขาหินปูนจังหวัดลพบุรี
นำทีมวิจัยพร้อมเก็บตัวอย่างชุดต้นแบบโดย ดร.วรวิทู มีสุข
อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
วิทยาเขตนครศรีธรรมราช (ไสใหญ่) ร่วมด้วย นายมนตรี สุมณฑา
นักวิชาการประมงชำนาญการ กรมประมง, นางสาวณัฐสุดา
ดรบัณฑิต
นักศึกษาปริญญาเอก มหาวิทยาลัยขอนแก่น และนายกีรติ กันยา หัวหน้าฝ่ายบำรุงสวนสัตว์
สวนสัตว์นครราชสีมา
“จิ้งจกหินวงจันทร์"
(Gehyra wongchan
Pauwels, Meesook, Kunya, Donbundit & Sumontha, 2022)
ค้นพบขณะที่ทีมวิจัยกำลังทำการสำรวจสัตว์เลื้อยคลานบริเวณเขาหินปูนจังหวัดลพบุรี โดยได้พบจิ้งจกหินไม่มีเล็บบนนิ้วที่
1 ซึ่งต่างจากจิ้งจกทั่ว
ๆ ไป ลำตัวมีสีน้ำตาลอ่อน ลายโค้งสีเข้มคล้ายรูปพระจันทร์เสี้ยว ในเบื้องต้นไม่สามารถระบุชนิดได้
จึงเก็บตัวอย่างเพื่อตรวจสอบร่วมกับ มร.โอลิเวียร์ เอส. จี. เพาเวลส์ (Mr.
Olivier S.G. Pauwels) ภัณฑารักษ์
สถาบันธรรมชาติวิทยาแห่งราชอาณาจักรเบลเยียม ซึ่งพบว่าเป็นจิ้งจกหินที่ยังไม่เคยมีการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์มาก่อน
จากการที่ทีมวิจัยพบจิ้งจกหินชนิดนี้ที่เขาวงพระจันทร์ และถ้ำเขาจันทร์
จึงเป็นที่มาของชื่อวิทยาศาสตร์ ‘wongchan’ และชื่อไทย
“วงจันทร์”
จากการสำรวจพื้นที่เขาหินปูน
พบว่าเป็นระบบนิเวศที่แยกขาดจากระบบนิเวศอื่น สิ่งมีชีวิตบริเวณนี้หลายชนิดมีความจำเพาะกับถิ่นอาศัย
ไม่สามารถปรับตัวไปอยู่ในระบบนิเวศอื่นได้ หากถิ่นอาศัยถูกทำลาย
จะนำไปสู่การสูญพันธุ์
รายงานการค้นพบสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่อย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีลักษณะเฉพาะในประเทศไทย
เป็นหลักฐานชัดเจนที่แสดงถึงความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่แห่งนี้ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องรักษาระบบนิเวศเขาหินปูนในบริเวณนี้ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลง
เราควรร่วมกันอนุรักษ์ถิ่นอาศัยของสิ่งมีชีวิตเพื่อคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ของความหลากหลายทางทรัพยากร
เป็นการรักษาโอกาสที่จะมีการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากฐานทรัพยากรทางชีวภาพของประเทศไทยอย่างยั่งยืน
นับเป็นความภาคภูมิใจของวงการวิชาการไทยอีกครั้ง
ที่บุคลากรทางด้านวิชาการไม่หยุดศึกษาค้นคว้า สำรวจทรัพยากรที่มีอยู่แล้วในประเทศและเผยแพร่ให้เป็นที่รู้จักสู่สากล
No comments:
Post a Comment