บี.กริม เพาเวอร์ ลงทุนโครงการ Caronsi โรงไฟฟ้า
พลังงานแสงอาทิตย์ 65 เมกะวัตต์ ในฟิลิปปินส์
ลุยขยายพอร์ท "พลังงานทดแทน"
พร้อมกดปุ่ม COD ไตรมาสแรกปี 2570
ได้เข้าลงทุนโดยการซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน Caronsi Solar Energy Corporation
ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นภายใต้กฎหมายของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์
เพื่อการพัฒนาและดำเนินการโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
กำลังการผลิตติดตั้ง 65 เมกะวัตต์ โดย B.Grimm Solar Power Inc.
ถือหุ้นในสัดส่วน 97% ของหุ้นที่ออกทั้งหมด โดยมีมูลค่าการลงทุน 200
ล้านเปโซฟิลิปปินส์ (เทียบเท่ามูลค่าประมาณ 118.52 ล้านบาท)
ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2570
ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท บี.กริม เพาเวอร์
จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่เมือง Tuguegarao จังหวัด Cagayan ทางตอนเหนือของเกาะ Luzon สาธารณรัฐฟิลิปปินส์โดยได้รับสิทธิในการจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นระยะเวลา 25 ปี (สามารถต่ออายุได้) ภายใต้สัญญา Solar Energy Operating จาก Department of Energy ของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ รวมถึงมีสิทธิการเช่าที่ดินระยะยาวเป็นเวลา 25 ปี (สามารถต่ออายุได้) โดยได้รับการอนุมัติและรับใบอนุญาตครบถ้วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวตั้งอยู่ที่เมือง Tuguegarao จังหวัด Cagayan ทางตอนเหนือของเกาะ Luzon สาธารณรัฐฟิลิปปินส์โดยได้รับสิทธิในการจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นระยะเวลา 25 ปี (สามารถต่ออายุได้) ภายใต้สัญญา Solar Energy Operating จาก Department of Energy ของสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ รวมถึงมีสิทธิการเช่าที่ดินระยะยาวเป็นเวลา 25 ปี (สามารถต่ออายุได้) โดยได้รับการอนุมัติและรับใบอนุญาตครบถ้วนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ โครงการยังได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ "BOI Green Lane"
มาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งช่วยเร่งรัดกระบวนการอนุมัติและออกใบอนุญาตต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมในการเข้าสู่ขั้นตอนก่อสร้างและดำเนินการโครงการ ซึ่งถือเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่โครงการที่ 2 ในสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ของ บี.กริม เพาเวอร์
มาตรการสนับสนุนจากรัฐบาลซึ่งช่วยเร่งรัดกระบวนการอนุมัติและออกใบอนุญาตต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมในการเข้าสู่ขั้นตอนก่อสร้างและดำเนินการโครงการ ซึ่งถือเป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่โครงการที่ 2 ในสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ของ บี.กริม เพาเวอร์
ทั้งนี้ จากความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้นต่อเนื่องในสาธารณรัฐฟิลิปปินส์
การลงทุนในครั้งนี้จึงถือเป็นการวางกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนภาคพลังงานสะอาดและขยายการลงทุนของ บี.กริม เพาเวอร์ ในภูมิภาคอาเซียน
รวมถึงเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนตามแนวโน้มการใช้พลังงานที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ตลอดจนเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนของบริษัทให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ พร้อมผลักดันเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ระยะยาวให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง ตามยุทธศาสตร์ GreenLeap-Global and Green ของ บี.กริม เพาเวอร์ที่มุ่งยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลกกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานทดแทนและผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก
ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า
50% เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติในระยะยาวและยังเป็นการขยายความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการต่อยอดและสร้างโอกาสทางธุรกิจ มุ่งสู่เป้าหมายกำลังผลิตไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 และก้าวสู่เป้าหมายองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593
การลงทุนในครั้งนี้จึงถือเป็นการวางกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนภาคพลังงานสะอาดและขยายการลงทุนของ บี.กริม เพาเวอร์ ในภูมิภาคอาเซียน
รวมถึงเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนตามแนวโน้มการใช้พลังงานที่เกิดขึ้นทั่วโลก
ตลอดจนเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับฐานการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนของบริษัทให้สอดคล้องกับแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานของโลกซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจ พร้อมผลักดันเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ระยะยาวให้ก้าวหน้าอย่างมั่นคง ตามยุทธศาสตร์ GreenLeap-Global and Green ของ บี.กริม เพาเวอร์ที่มุ่งยกระดับความร่วมมือทางธุรกิจระดับโลกกับพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศเพื่อก้าวสู่เป้าหมายการเป็นผู้นำในธุรกิจพลังงานทดแทนและผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก
ทั้งนี้ บี.กริม เพาเวอร์ มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนมากกว่า
50% เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของราคาก๊าซธรรมชาติในระยะยาวและยังเป็นการขยายความร่วมมือทางธุรกิจเพื่อสร้างพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อการต่อยอดและสร้างโอกาสทางธุรกิจ มุ่งสู่เป้าหมายกำลังผลิตไฟฟ้า 10,000 เมกะวัตต์ ในปี 2573 และก้าวสู่เป้าหมายองค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593
No comments:
Post a Comment