“ศูนย์การค้าธนิยะ” ตอบรับดีมานด์ตลาดกอล์ฟที่เติบโตขึ้น มาพร้อมโฉมใหม่ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกีฬากอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

“ศูนย์การค้าธนิยะ” ตอบรับดีมานด์ตลาดกอล์ฟ

ที่เติบโตขึ้น มาพร้อมโฉมใหม่ ตอบโจทย์

ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำ

ด้านกีฬากอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

“ศูนย์การค้าธนิยะ” โฉมใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกีฬากอล์ฟ ด้วยการเป็นศูนย์รวมร้านอุปกรณ์และสินค้าไลฟ์สไตล์ โดยรวบรวมร้านค้าแบรนด์กอล์ฟชั้นนำที่ครบครันและใหญ่ที่สุดในเอเชีย รองรับการเติบโตของดีมานด์ตลาดอุปกรณ์กอล์ฟทั้งในและต่างประเทศ พร้อมเปิดตัว “S Club” ร้านมัลติแบรนด์ (Multi-Brand Store) รวบรวมแบรนด์สินค้าแฟชั่นแอคทีฟไลฟ์สไตล์มาไว้พร้อมบริการลูกค้าในที่เดียว

ศลิษา นภาธร ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ธนิยะ กรุ๊ป กล่าวว่า ศูนย์การค้าธนิยะเป็นศูนย์รวมร้านอุปกรณ์กีฬากอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย การรีโนเวทใหญ่ครั้งนี้เพื่อปรับภาพลักษณ์ให้ทันสมัย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ ขณะเดียวกันธนิยะได้รวบรวมแบรนด์กอล์ฟชั้นนำที่ครบครันมากที่สุดในตลาด พร้อมเปลี่ยนแปลงรูปโฉมของร้านค้าภายในศูนย์การค้าให้เข้ากับเทรนด์และไลฟ์สไตล์
ที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สอดรับกับดีมานด์ตลาดกอล์ฟที่เติบโตขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศทั่วโลกโดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งเป็นผลกระทบเชิงบวก จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน นอกเหนือจากร้านค้ากอล์ฟแล้ว ธนิยะยังคงความเป็น Authentic Japanese Lifestyle ที่เป็นแหล่งรวมร้านอาหาร ร้านค้าของสะสม และงานอดิเรกต่าง ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์อันโดดเด่นของธนิยะเอาไว้

“ศูนย์การค้าธนิยะเปิดให้บริการมายาวนานกว่า 30 ปี โดยเริ่มจากการพัฒนาที่ดินว่างเปล่าบนถนนสีลมให้เป็นศูนย์การค้าและอาคารสำนักงาน โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาเราเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงเทคโนโลยีและช่องทางการขายสินค้าใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อยุคสมัย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา รวมถึงการมีพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง ทำให้ธนิยะเติบโตอย่างมั่นคงและเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายทั้งในกลุ่มชาวไทยและชาวต่างชาติในฐานะของการเป็นศูนย์รวมร้านอุปกรณ์กีฬากอล์ฟที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชีย เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของย่านธุรกิจสำคัญของเมืองไทยอย่างสีลม ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักของธนิยะคือ กลุ่มนักกอล์ฟทุกเจนเนอร์เรชั่น และกลุ่มคนที่ชื่นชอบอาหารและไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่น นอกจากนี้ปัจจุบันเรายังได้กลุ่มลูกค้าเพิ่มเติม คือกลุ่มนักกอล์ฟรุ่นใหม่และผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกีฬากลางแจ้ง (Active Lifestyle) ต่าง ๆ รวมถึงกลุ่มนักสะสม และกลุ่มพนักงานออฟฟิศ” ศลิษา กล่าว

ศูนย์การค้าธนิยะ ประกอบไปด้วยพื้นที่ค้าปลีก 2 อาคาร อาคารละ 4 ชั้น รวมพื้นที่เช่าทั้งหมดประมาณ 12,000 ตารางเมตร แบ่งเป็น อาคาร Thaniya BTS ติดกับถนนสีลม มีขนาด 3,500 ตารางเมตร
เน้นร้านค้าที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าในย่านสีลม อาทิร้าน Don Don Donki ขณะที่อาคาร Thaniya Atrium ตั้งอยู่บนถนนธนิยะ มีขนาดประมาณ 8,500 ตารางเมตร เป็นร้านค้าอุปกรณ์กีฬากอลฟ์จากแบรนด์ชั้นนำทั้งในไทยและต่างประเทศ โดย

บริเวณชั้น G และ 2 เป็นร้านค้าที่จำหน่ายอุปกรณ์กีฬาและให้บริการที่เกี่ยวกับกอล์ฟเป็นหลัก เช่น Mizuno, Titleist, TaylorMade, Kasco, Bridgestone Golf, Callaway, PING, Adidas, Srixon, U.S. Kids Golf, Cobra, Puma Golf และแบรนด์ชั้นนำ
อีกมากมาย

ส่วนชั้น 3 จะเป็นร้านค้าที่เกี่ยวกับการให้บริการ และสินค้าไลฟ์สไตล์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักกอล์ฟและคนในย่านสีลม โดยธนิยะได้มีเปิดตัวร้าน “S Club” - Active Lifestyle Multi-Brand Store เพื่อรวบรวมแบรนด์สินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นต่าง ๆ มาไว้อย่างครบครัน อาทิ Malbon และ Bogner ทั้งยังเพิ่มพื้นที่คอมมูนิตี้ (Community Space) สำหรับให้คนที่มีความชื่นชอบและสนใจเหมือนกัน สามารถมาใช้พื้นที่นี้ในการนัดพบ และแลกเปลี่ยนความชอบกันได้ ซึ่งเชื่อว่าจะตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี การเปิด S Club เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ซึ่งลูกค้าสามารถเตรียมพบกับร้านค้าไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ได้ภายในปลายปี 2567 นี้

พื้นที่ชั้น 4 จะเป็นโซนร้านอาหารภายใต้คอนเซ็ปต์ Authentic Japanese โดยรวบรวมร้านอาหารที่หลากหลาย และมีเอกลักษณ์มาไว้ด้วยกัน โดยจะทยอยเปิดทำการตั้งแต่ Q3 ปีนี้เป็นต้นไป

ศูนย์การค้าธนิยะ ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพถนนสีลม ลูกค้าสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกจากทั้ง BTS (สถานีศาลาแดง) และ MRT (สถานีสีลม) หรือหากเดินทางด้วยรถส่วนตัว ก็สามารถนำมาจอดได้ที่อาคาร Thaniya Atrium และอาคารจอดรถญาดา ซึ่งมีที่จอดรถทั้งบริเวณชั้นใต้ดินและบนดินรองรับทั้งหมด 900 คัน เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 22:00 น.