![](https://www.thaipr.net/wp-content/uploads/2023/11/%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%87-87e5728a-e1699612909202.jpg)
นักธรณีวิทยา จุฬาฯ พบหลักฐานใหม่
บ่งชี้การอยู่อาศัยของคนโบราณ
บนเขาพนมรุ้ง-เขาปลายบัด จ.บุรีรัมย์
ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับคณาจารย์จากคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร สำรวจพบกองหินและแนวหินจำนวนมากบนเขาพนมรุ้ง-ปลายบัด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งในทางธรณีวิทยาแปลความหมายได้ว่าไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่เป็นกิจกรรมของมนุษย์ในอดีต
ศ.ดร.สันติ ให้ข้อมูลว่าในทางธรณีวิทยา เขาพนมรุ้งและเขาปลายบัด อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ เป็นภูเขาไฟยุคควอเทอร์นารี เกิดจากการประทุและไหลหลากของลาวาเมื่อประมาณ 1 ล้านปีก่อน เมื่อลาวาเย็นและแข็งตัวจะกลายเป็น หินบะซอลต์ (basalt) ซึ่งมีทั้งแบบบะซอลต์เนื้อแน่น (massive basalt) บะซอลต์รูพรุน (vesicular basalt) และสคอเรีย (scoria) ที่มีรูพรุนมากคล้ายฟองน้ำ ซึ่งเกิดจากความแตกต่างของปริมาณก๊าซที่มีอยู่ในมวลลาวาและรายละเอียดทางธรณีวิทยาของการประทุในแต่ละครั้ง
จากการลงพื้นที่สำรวจทั้งเขาพนมรุ้งและเขาปลายบัด ศ.ดร.สันติ และทีมนักวิจัย พบว่า โดยธรรมชาติจะมีก้อนหินบะซอลต์หลากหลายขนาดกระจายแบบสุ่มอยู่เต็มพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.สันติ ตั้งข้อสังเกตว่าในบางพื้นที่มีก้อนหินบะซอลต์กองรวมกันอยู่อย่างหนาแน่นเป็นชั้นๆ 2 – 3 ชั้น กองเป็นเนินขนาดเล็กบ้าง กองสูงท่วมหัวบ้าง และในหลายๆ ที่ยังพบลักษณะคล้ายกับว่ามีการจัดวางและเรียงก้อนบะซอลต์เป็นแนวยาว 150 – 200 เมตร บนเขาปลายบัด หรือเป็นรูปทรงคร่าวๆ ซึ่งไม่เป็นไปตามธรรมชาติทางธรณีวิทยา
นอกจากการกองรวมกันเป็นเนินเป็นแนวแล้ว อีกข้อสังเกตทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจคือ เนินหรือแนวมักจะเกิดจากการกองรวมกันของหินบะซอลต์ที่มีขนาดใกล้เคียงกัน และเป็นขนาดพอเหมาะที่มนุษย์จะสามารถยกย้ายได้ อนุมานว่าก้อนหินบะซอลต์เหล่านี้อาจจะผ่านการคัดขนาดเป็นอย่างดี เพื่อให้เหมาะที่จะนำมาใช้หรือนำมากอง
นอกจากนี้กลุ่มหินบะซอลต์ในแต่ละเนินหรือแนวหินบะซอลต์ จะประกอบไปด้วยหินบะซอลต์หลากหลายเนื้อหิน ทั้งหินบะซอลต์เนื้อแน่น หินบะซอลต์รูพรุน รวมถึงหินสคอเรีย รวมกันอยู่ในเนินหรือแนวเดียวกัน ซึ่งเป็นไปไม่ได้ในมิติทางธรณีวิทยา เนื่องจากเนื้อหินจะแตกต่างกันก็ต่อเมื่อเกิดจากการประทุของภูเขาไฟคนละเหตุการณ์ที่ไหลหลากกันคนละพื้นที่
จากการสืบค้นเชิงเอกสารในแหล่งโบราณคดีพื้นที่อื่น พบว่ามีพฤติกรรมการกองหินเป็นแนวนี้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างเช่นในพื้นที่แหล่งโบราณคดีทางตอนเหนือของรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา ศ.ดร.สันติ จึงสรุปว่า กองหรือแนวหินบะซอลต์ที่พบบนเขาพนมรุ้งและเขาปลายบัดเกิดจากกิจกรรมมนุษย์ที่คัดเลือกหินขนาดพอเหมาะ รวบรวมและเคลื่อนย้ายมาก่อรวมกัน เพื่อการก่อสร้างหรือเพื่อวัตถุประสงค์อะไรบางอย่าง นอกจากปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทเขาปลายบัด ๑ และ ปราสาทเขาปลายบัด ๒ ที่ตั้งอยู่บนยอดภูเขาแล้ว ภายในป่าพื้นที่โดยรอบบนเขาทั้งสองลูก ยังมีการใช้พื้นที่และอยู่อาศัยของคนในอดีตเช่นกัน
รายชื่อทีมสำรวจ : สันติ ภัยหลบลี้, กังวล คัชชิมา, สมบัติ มั่งมีสุขศิริ, อุเทน วงศ์สถิตย์, ปัญญา จารุศิริ, ปัญญา นากระโทก, จักรกริช อุดรพิมพ์, และ ตามศักดิ์ วงศ์มุนีวร
![](https://www.thaipr.net/wp-content/uploads/2023/11/%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B8%B0%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-U-2b5593b6-e1699612914678.jpg)
No comments:
Post a Comment