TNR ท็อปฟอร์ม โชว์ผลประกอบการปี 65 นิวไฮ ทำกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท เตรียมจ่ายเงินปันผล งวดครึ่งปีหลังอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Sunday 5 March 2023

TNR ท็อปฟอร์ม โชว์ผลประกอบการปี 65 นิวไฮ ทำกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท เตรียมจ่ายเงินปันผล งวดครึ่งปีหลังอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น



TNR ท็อปฟอร์ม โชว์ผลประกอบการปี 65 นิวไฮ 
ทำกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท เตรียมจ่ายเงินปันผล
งวดครึ่งปีหลังอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น

บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ TNR ผลงานปี 2565 โดดเด่น ทำรายได้จากการขายถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นมียอดขายรวม 1,852 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ จากปริมาณการขายถุงยางอนามัยปีที่เพิ่มขึ้นกว่า 157 ล้านชิ้นหนุนอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยทั้งปีอยู่ในระดับสูงกว่า 80-90% ค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลง รวมถึงกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน บอร์ดเคาะจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น ส่งสัญญาณสถานการณ์ไตรมาส 1/2566 สดใส หลังได้รับออเดอร์ใหม่จากงานประมูล

นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR เปิดเผยว่า ภาพผลการดำเนินงานตามงบการเงินปี 2565 ถือเป็นปีแห่งการเติบโตอย่างโดดเด่นจากรายได้และกำไรที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ (New High) นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ โดยมีรายได้จากการขายถุงยางอนามัยและเจลหล่อลื่นทั้งสิ้น 1,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 1,490 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 312 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากปี 2564

ปัจจัยที่สามารถทำผลประกอบการนิวไฮ มาจากปริมาณการขายถุงยางอนามัยปี 2565 ที่เพิ่มขึ้น 15% จากปี 2564 กว่า 157 ล้านชิ้น (1.1 ล้านกรอส) ส่งผลให้มีต้นทุนการผลิตต่อหน่วยลดลงจากอัตราการเดินเครื่องจักรเฉลี่ยที่อยู่ในระดับสูงกว่า 80-90% ตลอดทั้งปี ค่าใช้จ่ายการตลาดที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ถึงแม้ว่าในไตรมาส 4/65 จะมียอดการขายจากกลุ่มธุรกิจงานประมูล (Tender) น้อยกว่าที่คาดการณ์จากไตรมาส 3/65 ซึ่งมาจากการชะลอการส่งออกไปต่างประเทศชั่วคราว แต่บริษัทฯ คาดว่ายอดขายดังกล่าวจะกลับมาในไตรมาส 1/66 และการแสดงผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เป็นผลกระทบจากการลดมูลค่าลูกหนี้การค้าต่างประเทศ

ขณะที่รายได้ผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยจาก 3 กลุ่มธุรกิจ ส่วนใหญ่มีอัตราเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจงานประมูล (Tender) ที่มียอดขายเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดเกือบ 68% กลุ่มธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) มียอดขายเพิ่มขึ้น 14% ส่วนกลุ่มธุรกิจภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัท (OBM) มียอดขายในระดับเดียวกับปีก่อน อีกทั้งผลิตภัณฑ์เจลหล่อลื่นก็มียอดขายเพิ่มขึ้นเกือบ 100% จาก 70 ล้านบาท เป็น 134 ล้านบาทด้วยเช่นกัน

จากผลการดำเนินงานดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัทฯ มีมติเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 เพื่อพิจารณาอนุมัติจ่ายเงินปันผลในอัตรารวม 0.5 บาทต่อหุ้น โดยบริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากงวดผลการดำเนินงานงวดครึ่งปีแรกของปี 2565 แล้วในอัตรา 0.20 บาทต่อหุ้น คงเหลือที่จะต้องจ่ายในงวดนี้อีก 0.30 บาทต่อหุ้น โดยมีกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 14 มีนาคม 2566 นี้ และจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที่ 3 พฤษภาคม 2566 หลังจากได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น

ทั้งนี้ สำหรับสถานการณ์ 1-2 เดือนของปี 2566 อยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ ได้รับคำสั่งซื้อใหม่ในกลุ่มธุรกิจงานประมูลจำนวน 30 ล้านชิ้น มีกำหนดส่งมอบสินค้าภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งจะทำให้อัตราการเดินเครื่องจักรของโรงงานอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องตลอดไตรมาส 1/2566

"ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนเพิ่มยอดขายอย่างต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยการมุ่งขยายตลาดถุงยางอนามัยภายใต้แบรนด์สินค้าของบริษัทฯ และรับจ้างผลิต ในตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรปและโดยเฉพาะประเทศจีนที่มีประชากรกว่า 1,400 ล้านคนเป็นประเทศที่ใช้ถุงยางอนามัยมากที่สุดในโลก ซึ่งปีนี้ TNR มีความพร้อมที่จะเพิ่มการทำตลาดในประเทศจีน หลังจากทั่วโลกคลายความกังวลต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของโค COVID-19 ส่งผลประชาชนกลับมาใช้ชีวิตและธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงสถานบันเทิงกลับมาเปิดบริการตามปกติ" นายอมร กล่าว

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์