ไทยและอิตาลีเฉลิมฉลองวันพิซซ่าโลก (World Pizza Day) ที่ สถาบัน ALMA School of Italian Culinary Arts ในกรุงเทพ

ไทยและอิตาลีเฉลิมฉลองวันพิซซ่าโลก 

(World Pizza Day) ที่ สถาบัน ALMA School 

of Italian Culinary Arts ในกรุงเทพ

Conserve Italia หนึ่งในพันธมิตรของโครงการ 'ศาสตร์ศิลป์แห่งรสชาติแบบยุโรป สุดยอดผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้แห่งอิตาลี'
นำเสนอซอสมะเขือเทศเข้มข้นพาสซาต้าตำรับดั้งเดิมที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกชื่นชอบพิซซ่า

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, 30 มกราคม 2566 – ประเทศไทยและประเทศอิตาลีเฉลิมฉลอง วันพิซซ่าโลกร่วมกันเมื่อเร็วๆ นี้ที่สถาบัน ALMA School of Italian Culinary Arts โดยมีเอกอัครราชทูตอิตาลีประจำประเทศไทย เปาโล ดิโอนิซิ เป็นเจ้าภาพ

งานนี้มีไฮไลท์ที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ที่เป็นเลิศของอิตาลีทั้งสดและแปรรูป และเป็นโอกาสยอดเยี่ยมที่จะสร้างความตระหนักรู้ให้กับคนไทยเกี่ยวกับโครงการ 'ศาสตร์ศิลป์แห่งรสชาติแบบยุโรป สุดยอดผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้แห่งอิตาลี' ('THE EUROPEAN ART OF TASTE: ITALIAN FRUIT & VEG MASTERPIECES') ที่ได้รับการสนับสนุนโดยสหภาพยุโรปและ CSO Italy ผ่าน Conserve Italia




งานวันพิซซ่าโลกได้รับความสนใจจากรัฐบาลไทย ตัวแทนจากสำนักงานพาณิชย์อิตาเลียนในกรุงเทพฯ รวมถึงสมาชิกของ Associazione Verace della Pizza Napoletana (AVPN) และ Unioncamere เข้าร่วมงาน ซึ่งได้รับความเพลิดเพลินและมีส่วนร่วมกับการสาธิตทำพิซซ่า กิจกรรมซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 17 มกราคม ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของ Sant'Antonio Abate ซึ่งเป็นนักบุญอุปถัมภ์ของคนทำพิซซ่าและขนมปัง Conserve Italia และร้านพิซซ่าอิตาเลียนที่มีชื่อเสียงทั่วกรุงเทพฯก็เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ด้วย

กิจกรรมนี้มีความสำคัญในการส่งเสริมความเป็นเลิศของพิซซ่าอิตาเลียน และแนะนำให้คนไทยได้รู้จักกับความอร่อยของซอสมะเขือเทศพาสซาต้าซึ่งเป็นซอสมะเขือเทศเข้มข้นที่ทำให้คนไทยและทั่วโลกชื่นชอบพิซซ่า

Conserve Italia เป็นบริษัทชั้นนำจากยุโรปในด้านการถนอมอาหารประเภทผักและผลไม้ ได้เข้าร่วมกับกิจกรรมวันพิซซ่าโลกในกรุงเทพฯเพื่อนำเสนอผลไม้และผักคุณภาพสูงจากอิตาลีให้กับคนไทยรุ่นใหม่ หลังจากนี้จะมีการนำเสนอโปรโมชั่นทั้งสำหรับบริการอาหาร และช่องทางออนไลน์ควบคู่ไปกับ โครงการ ICE ของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shoppee

กิจกรรมวันพิซซ่าโลกเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมในการประชาสัมพันธ์โครงการ 'ศาสตร์ศิลป์แห่งรสชาติแบบยุโรป สุดยอดผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้แห่งอิตาลี' ซึ่งได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหภาพยุโรปร่วมกับ CSO Italy เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้สดและแปรรูปจากสหภาพยุโรปในประเทศไทย (รวมถึงจีนไต้หวันญี่ปุ่นและฮ่องกง) โดยเฉพาะอ ยางยิ่งผักและผลไม้ที่มาจากอิตาลีซึ่งเป็นดินแดนแห่งความงดงาม และแสงแดดอบอุ่น โครงการนี้มีระยะเวลาในการดำเนินงาน 3 ปี และร่วมดำเนินการโดยบริษัทชั้นนำสัญชาติอิตาเลียนได้แก่ Apofruit, Cico-Mazzoni, Conserve Italia, Lagnasco, Oranfrizer, Origine และ RK Growers