“โพลีเน็ต หรือ POLY” ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 120 ล้านหุ้น ระดมทุน SET กางแผนอัพกำลังการผลิต ลุยตลาดชิ้นส่วนในอุตสาหกรรม - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Wednesday 27 April 2022

“โพลีเน็ต หรือ POLY” ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 120 ล้านหุ้น ระดมทุน SET กางแผนอัพกำลังการผลิต ลุยตลาดชิ้นส่วนในอุตสาหกรรม




“โพลีเน็ต หรือ POLY” ยื่นไฟลิ่งขาย IPO 120 ล้านหุ้น ระดมทุน SET กางแผนอัพกำลังการผลิต ลุยตลาดชิ้นส่วนในอุตสาหกรรม

บมจ.โพลีเน็ต หรือ POLY ยื่นไฟลิ่งขายไอพีโอ 120 ล้านหุ้น เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (SET) ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน – ขยายโรงงานและลงทุนเครื่องจักร – ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน โดยมี บล.เคจีไอ เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน

นางกาญจนา เหลารัตนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) หรือ POLY เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าเข้ามาระดมทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของบริษัทในการเติบโตอย่างยั่งยืน ในฐานะผู้ผลิตชั้นนำในผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับ ยาง พลาสติก ซิลิโคน และแม่พิมพ์สำหรับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึง เพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน การขยายธุรกิจ และโอกาสการเติบโตในอนาคต โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในครั้งนี้

วัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ สำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการ และใช้สำหรับลงทุนในโครงการขยายโรงงานและลงทุนเครื่องจักรเพิ่มเติม รวมทั้ง ใช้จ่ายคืนหนี้สินเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกับที่ปรึกษาทางการเงิน และ/หรือผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

ทั้งนี้ POLY เป็นผู้ผลิตสินค้าประเภทยาง พลาสติก และซิลิโคนขึ้นรูปตามความต้องการของลูกค้า โดยกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ประกอบด้วย 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ (1) อุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ (Automotive) ซึ่งโดยส่วนใหญ่ใช้ทั้งในรถยนต์สันดาปและรถยนต์ไฟฟ้า เช่น ท่อยางอากาศ ยางกันฝุ่น ยางกันสั่นสะเทือน ยางกันกระแทก ท่อร้อยสายไฟ และยางขอบกระจก เป็นต้น (2) อุตสาหกรรมการเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical) เช่น ปลอกซิลิโคน วาล์วซิลิโคน ท่อซิลิโคน สายช่วยหายใจ ที่สอดจมูกช่วยหายใจ ตัวนำอสุจิ หน้ากากออกซิเจน ถ้วยอนามัย รวมถึงชิ้นส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับช่วยในการผ่าตัดต่างๆ เป็นต้น โดยมุ่งเน้นการผลิตผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยและเพิ่มประสิทธิภาพและความแม่นยำในการรักษา (3) อุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) เช่น ถุงซิลิโคนใส่อาหาร ซีลยางบรรจุภัณฑ์ และส่วนประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ชิ้นส่วนซิลิโคนกันความร้อน (Silicone Cap Heater) จุกยางระบายไอน้ำหม้อหุงข้าว เป็นต้น

ทั้งนี้ POLY มีการดำเนินธุรกิจในรูปแบบครบวงจร (One-Stop Services) ตั้งแต่การออกแบบผลิตแม่พิมพ์ คิดค้นพัฒนาสูตรการผลิต ตลอดจนการขึ้นรูปชิ้นงาน โดยมุ่งหวังการตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบถ้วนทุกความต้องการ เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงรายได้จากอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง อีกทั้ง มีแนวทางการขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมอื่นที่กำลังเติบโตและมีอุปสงค์ต่อสินค้าในอุตสาหกรรมนั้นสูง จึงทำให้บริษัทเริ่มขยายธุรกิจมาทางด้านการผลิตขึ้นรูปสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์และสินค้าอุปโภคบริโภคที่มุ่งเน้นด้านนวัตกรรม โดยมุ่งหวังที่จะขยายสัดส่วนรายได้ของทั้งสองอุตสาหกรรมดังกล่าวให้ทัดเทียมกับสัดส่วนรายได้ของอุตสาหกรรมยานยนต์ จากแนวโน้มการเติบโตดังกล่าว POLY จึงเข้ามาระดมทุนเพื่อรองรับโอกาสในครั้งนี้



นางสาวสุวิมล ศรีโสภาจิต ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า ขณะนี้ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบริษัท โพลีเน็ต จำกัด (มหาชน) เพื่อประกอบการยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (IPO) จำนวน 120,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 26.7% ของจํานวนหุ้นที่ออกและเรียกชําระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจ ยานยนต์ (AUTO)

ปัจจุบัน POLY มีทุนจดทะเบียน 450,000,000 บาท คิดเป็น จำนวน 450,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 1 บาท/หุ้น เป็นทุนเรียกชำระแล้ว 330,000,000 บาท สำหรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ POLY ณ วันที่ 30 มีนาคม 2565 ถือหุ้นโดยครอบครัวเหลารัตนา มีสัดส่วนก่อน IPO 99.4% และสัดส่วนหลัง IPO 72.9%

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562– 2564) บริษัทฯ มีรายได้รวม 581.7 ล้านบาท 523.2 ล้านบาท และ 787.1 ล้านบาทตามลำดับ โดยบริษัทฯ มีรายได้ลดลงในปี 2563 เนื่องจากภาคการผลิตรถยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 และได้ปรับกลยุทธ์ในด้านกำลังการผลิตใหม่ เพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่กลุ่มอุปกรณ์การแพทย์และกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีแนวโน้มการเติบโตสูง ส่งผลให้ในปี 2564 POLY มีรายได้จากการขายเติบโตเพิ่มขึ้น 263.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้น 50.4% เมื่อเทียบกับปี 2563 นอกจากนี้สินค้าในกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ก็เติบโตขึ้นเช่นกันจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว รวมถึงการผลิตชิ้นส่วนใหม่ให้แก่ลูกค้า โดยสัดส่วนรายได้หลัก ณ สิ้นปี 2564 มาจากกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ 61.5% กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค 25.2% และกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ 13.2%

และจากการปรับกลยุทธ์เพื่อขยายฐานลูกค้าในอุตสาหกรรมที่เป็นโอกาส ส่งผลต่อความสามารถในการทำกำไรที่โดดเด่น โดยมีกำไรสุทธิในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562 – 2564) อยู่ที่ 13.1 ล้านบาท 21.8 ล้านบาท และ 120.9 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์และอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น รวมทั้ง การใช้กำลังการผลิตโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่งผลให้เกิดการประหยัดต่อขนาดและลดต้นทุนคงที่ต่อหน่วย (Economy of scale) และมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อรายได้จากการขายลดลง สำหรับอัตราส่วนกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 17.7% 19.2% และ 28.3% อัตรากำไรสุทธิ 2.3% 4.2% และ 15.4% ตามลำดับ

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์