นักศึกษาไทยพาผลงานระบบเปลี่ยนโมเลกุลคาร์บอนให้
กลายเป็นพลาสติกชีวภาพอัตโนมัติ
คว้ารางวัล James Dyson Award ประจำปี 2567
เป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันต่อในระดับนานาชาติ
ดาวน์โหลดรูปภาพเพิ่มเติมได้ที่นี่ และชมวิดีโอเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ได้ที่นี่
- ทีม Carbon Polymerizing System ผู้ชนะระดับประเทศของการแข่งขัน Jame Dyson Awards จะได้เงินรางวัลจำนวน 224,000 บาท เป็นการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรมในขั้นต่อไป
- รองชนะเลิศระดับประเทศในปีนี้ ได้แก่ NANO HEMP นวัตกรรมเปลี่ยนขยะกัญชงให้กลายเป็นท่อนาโนคาร์บอน และ PlantPoxy สารกำจัดแมลงชีวภาพผลิตจากเชื้อราที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
- ผลงานจากทั้งสามทีมจะได้เข้าร่วมแข่งขัน James Dyson Award ในระดับนานาชาติ ชิงเงินรางวัล 1,345,000 บาท
กรุงเทพฯ 27 กันยายน 2567 - Carbon Polymerizing System ผลงานจากทีมนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลคว้ารางวัลชนะเลิศระดับประเทศของการแข่งขัน James Dyson Award ในปีนี้ โดยผลงานนี้คือระบบการผลิตพลาสติกชีวภาพจากคาร์บอนแบบอัตโนมัติที่มุ่งแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอันเกิดจากก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากขยะอาหาร โดยทีมผู้คิดค้น Carbon Polymerizing System จะเป็นตัวแทนประแทนไทยพร้อมทีมรองชนะเลิศอีก 2 ทีมในการแข่งขันระดับนานาชาติต่อไป
Carbon Polymerizing System หรือ ระบบการผลิตพลาสติกชีวภาพจากคาร์บอนแบบอัตโนมัติ จะดักจับโมเลกุลคาร์บอนเพื่อนำมาผลิตเป็นพลาสติกชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เรียกว่า PHB ซึ่งเหมาะสำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั่วไปจนถึงวัสดุทางการแพทย์ ระบบจะใช้แบคทีเรียเปลี่ยนคาร์บอนที่ได้จากแหล่งต่าง ๆ เช่น น้ำเสียจากน้ำผลไม้ ชีวมวลผักและผลไม้ หรือแม้แต่ก๊าซเรือนกระจก ให้กลายเป็นพลาสติกชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติและปลอดภัยโดยใช้ระยะเวลาย่อยสลายในดินประมาณ 2 สัปดาห์ ต่างกับพลาสติกชนิดอื่นที่อาจใช้เวลาย่อยสลายในป่านานถึง 80 ปี ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยลดคาร์บอนที่เป็นอันตรายในอากาศ แต่ยังส่งผลให้วัสดุไม่ตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย เป็นนวัตกรรมที่ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นประโยชน์ต่อทั้งสิ่งแวดล้อมและสังคม
ระบบจะทำงานอัตโนมัติโดยใช้ระบบควบคุมแบบเรียลไทม์ หรือ SCADA (Supervisory Control and Data Acquisition) เพื่อให้มั่นใจว่าการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและสะอาด ด้วยการจัดการกระบวนการทั้งหมดด้วยการติดตามผลแบบเรียลไทม์ จะช่วยลดของเสียและมลพิษให้เหลือน้อยที่สุด ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการผลิตที่ยั่งยืน แนวทางนี้ไม่เพียงแค่ลดการปล่อยคาร์บอน แต่ยังกำจัดคาร์บอนจากบรรยากาศมากกว่าที่ปล่อยออกมาอีกด้วย
นักประดิษฐ์ทีมผู้ออกแบบ Carbon Polymerizing System ประกอบด้วยสุเมธ กล่อมจิตเจริญ (คนแรกจากซ้าย) , สหรัถ ชวฤาชัย (คนที่สามจากซ้าย), และกัลยพัชร์ พลอยประดิษฐ์ (คนที่สองจากซ้าย) นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมหิดล โดยมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เนื่องจากมองเห็นถึงปริมาณคาร์บอนจำนวนมากที่ถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศผ่านกิจกรรมของมนุษย์ เพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว ทีมผู้ออกแบบจึงสร้างนวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนขยะอาหารหรือแหล่งคาร์บอนอื่น ๆ ให้เป็นพลาสติกชีวภาพ
ทีมผู้ออกแบบ Carbon Polymerizing System ซึ่งเป็นทีมผู้ชนะระดับประเทศในปีนี้ จะได้รับเงินรางวัลจำนวน 224,000 บาท จาก James Dyson Award เพื่อเป็นทุนในการพัฒนานวัตกรรมและต่อยอดเชิงพาณิชย์ โดยในอนาคตมีแผนพัฒนาระบบติดตามการปล่อยคาร์บอน เพื่อเก็บข้อมูลปริมาณก๊าซที่ปล่อยออกมาระหว่างกระบวนการผลิต
สหรัถ ชวฤาชัย หนึ่งในสมาชิกทีมผู้ออกแบบ Carbon Polymerizing System กล่าวว่า "การแข่งขัน James Dyson Award มอบโอกาสให้พวกเราได้นำเสนอนวัตกรรม ซึ่งพวกเราเชื่อว่ารางวัลนี้จะช่วยให้นวัตกรรม Carbon Polymerizing System เป็นที่รู้จักในตลาดและสร้างประโยชน์ให้กับโลกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้พวกเรายังอยากให้นวัตกรรมนี้เป็นแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ หันมาสนใจใช้ความคิดสร้างสรรค์ออกแบบนวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาในโลกของเราต่อไป"
รองชนะเลิศ
NANO HEMP
NANO HEMP มีเป้าหมายที่จะจัดการกับความท้าทาย 2 ประการ ได้แก่ การจัดการของเสียจากอุตสาหกรรมกัญชง และต้นทุนการผลิตที่สูงของท่อนาโนคาร์บอน (CNT) ซึ่งเป็นวัสดุที่ใช้ในแบตเตอรี่และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ภูวดล เสงี่ยมมีเจริญ ตัดสินใจแก้ปัญหาเหล่านี้โดยการสร้าง NANO HEMP ซึ่งจะใช้ขยะจากกัญชงโดยเฉพาะเศษแกนกัญชงที่มีคาร์บอนสูง เพื่อสร้างวิธีการที่ยั่งยืนและประหยัดต้นทุนในการสังเคราะห์ท่อนาโนคาร์บอน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าในด้านการกักเก็บพลังงาน อุปกรณ์ทางการแพทย์ และคอมโพสิตขั้นสูง นำไปสู่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
PlantPoxy
ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรทั่วไปใช้สารเคมีที่รุนแรงซึ่งเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสุขภาพของมนุษย์และสิ่งแวดล้อม วัสดุและสารเคมีที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เหล่านี้ยังก่อให้เกิดมลพิษปริมาณมากซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ทีมผู้ออกแบบ ได้แก่ สุทธวิชญ์ บุตรนนท์ (คนแรกจากซ้าย), จิตาภา ม่วงศิริ (คนที่สองจากซ้าย), ชลธกาญ ผลมะขาม (คนที่สามจากซ้าย), และฌานิทธิ์ พิทักษ์วงษ์ (คนที่สี่จากซ้าย) ได้คิดค้น PlantPoxy สารกำจัดแมลงชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมทำจากเชื้อราที่สลายตัวตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป โดยไม่ทิ้งสารตกค้างที่เป็นอันตราย PlantPoxy ตั้งเป้าลดการพึ่งพาสารเคมีกำจัดแมลง ด้วยการสนับสนุนการใช้สารกำจัดแมลงชีวภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมถึงช่วยปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ส่งผลให้ดิน น้ำ และอากาศสะอาดขึ้น
สิ่งประดิษฐ์ทั้งสามชิ้นจะร่วมแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติของการแข่งขัน James Dyson Award โดยจะมีโอกาสได้รับเงินรางวัลจำนวน 1,345,000 บาท ผลงานที่เข้ารอบ 20 อันดับแรกในระดับนานาชาติจะประกาศในวันที่ 16 ตุลาคม และผู้ชนะระดับนานาชาติจะประกาศในวันที่ 13 พฤศจิกายน โดยผู้ตัดสินคือ James Dyson
James Dyson Award
James Dyson Award คือการแข่งขันด้านการออกแบบระดับนานาชาติที่จะให้รางวัล สนับสนุน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับวิศวกรออกแบบรุ่นใหม่ โดยในปีนี้มีการดำเนินการใน 29 ประเทศ และสนับสนุนสิ่งประดิษฐ์มากกว่า 400 รายการ ด้วยเงินรางวัลกว่า 44 ล้านบาท ดำเนินการโดยมูลนิธิ James Dyson Foundation ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลด้านการศึกษาด้านวิศวกรรมของ Sir James Dyson
โจทย์
ออกแบบสิ่งประดิษฐ์ที่สามารถแก้ไขปัญหาได้ โดยปัญหานี้อาจเป็นสิ่งที่เราพบเห็นได้ในชีวิตประจำวันหรือเป็นปัญหาระดับโลกก็ได้ แต่สิ่งสำคัญคือวิธีการแก้ปัญหาต้องมีประสิทธิภาพและแสดงให้เห็นถึงการคิดเชิงออกแบบ
ขั้นตอนการตัดสิน
ผู้เข้าประกวดจะถูกคัดเลือกในระดับประเทศโดยคณะกรรมการอิสระและวิศวกรจาก Dyson โดยในแต่ละประเทศจะเฟ้นหาตัวแทนเพื่อหาผู้ชนะเลิศอันดับหนึ่งและรองชนะเลิศสองอันดับ จากนั้นวิศวกรจาก Dyson จะทำการคัดเลือก 20 ผู้เข้ารอบในระดับประเทศเพื่อทำการคัดเลือกต่อไปในระดับนานาชาติ ซึ่งผลงานจากผู้เข้ารอบทั้ง 20 โครงการจะได้รับการพิจารณาโดย James Dyson เพื่อคัดเลือกหาผู้ชนะในระดับนานาชาติต่อไป
รางวัลรางวัลชนะเลิศระดับนานาชาติ คัดเลือกโดย James Dyson รับเงินรางวัลสูงสุดมูลค่า 1,345,000 บาท
รางวัลรองชนะเลิศระดับนานาชาติ รับเงินรางวัลมูลค่า 224,000 บาท
รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ รับเงินรางวัลมูลค่า 224,000 บาท
เกณฑ์การรับสมัคร
ผู้เข้าร่วมจะต้องลงทะเบียนในหลักสูตรระดับปริญญาตรีหรือบัณฑิตที่เกี่ยวข้องกับวิศวกรรม/การออกแบบเป็นเวลาอย่างน้อยหนึ่งภาคการศึกษา หลักสูตรนี้ต้องเป็นของมหาวิทยาลัยในประเทศหรือภูมิภาคที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วม James Dyson Award
ในกรณีของการสมัครในนามทีม สมาชิกทุกคนจะต้องลงทะเบียนอย่างน้อยหนึ่งภาคการศึกษาในหลักสูตรระดับปริญญาตรีหรือบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยในประเทศหรือภูมิภาคที่ได้รับเลือกให้เข้าร่วมใน James Dyson Award โดยสมาชิกในทีมอย่างน้อยหนึ่งคนต้องศึกษาวิชาด้านวิศวกรรมหรือการออกแบบ นอกจากนี้ผู้ที่กำลังศึกษาเทียบเท่าปริญญาตรีหรือปริญญาโท และจบการศึกษาภายใน 4 ปีที่ผ่านมาก็มีสิทธิ์เข้าประกวดรางวัลนี้เช่นกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านบนเว็บไซต์ James Dyson Award
ผู้ชนะในปีที่ผ่านมา
- ผู้ชนะระดับนานาชาติปี 2023 – The Golden Capsule (เกาหลีใต้) อุปกรณ์ฉีดยาทางหลอดเลือด (IV) แบบแฮนด์ฟรี ออกแบบมาสำหรับพื้นที่ประสบภัย สามารถติดตั้งกับผู้ป่วยได้โดยไม่ต้องพึ่งพาแรงโน้มถ่วง
- ผู้ชนะด้านความยั่งยืนปี 2023 – E-COATING (ฮ่องกง) สารเคลือบหลังคาและผนังภายนอกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและราคาไม่แพง พร้อมประสิทธิภาพการทำความเย็นสูง เพื่อการทำความเย็นโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้า
- ผู้ชนะระดับนานาชาติปี 2022 – SmartHeal (โปแลนด์) เซ็นเซอร์ตรวจวัดค่า pH อัจฉริยะที่แม่นยำ ราคาไม่แพง และปรับขนาดได้สำหรับผ้าปิดแผล ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ตรวจพบการติดเชื้อโดยไม่จำเป็นต้องเปิดผ้าผิดแผลออก
- ผู้ชนะด้านความยั่งยืนปี 2022 – Polyformer (แคนาดา) เครื่องจักรต้นทุนต่ำซึ่งสามารถแปลงขวดพลาสติกให้เป็นเส้นใยสำหรับเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ทำให้ผู้ผลิตในประเทศกำลังพัฒนาเข้าถึงวัสดุการพิมพ์ 3 มิติที่มีคุณภาพสูงและราคาถูกได้ง่ายขึ้น
- ผู้ชนะระดับชาติปี 2023 - O-GA เครื่องเพาะเลี้ยงสาหร่ายเพื่อผลิตน้ำมันไบโอดีเซล
ช่องทางออนไลน์ของ James Dyson AwardWebsite: https://www.jamesdysonaward.org/
Instagram: @jamesdysonaward
X: @jamesdysonaward
TikTok: @jamesdysonaward
LinkedIn: James Dyson Award
YouTube: youtube.com/jamesdysonfoundation
No comments:
Post a Comment