อิปซอสส์ เผย ผลวิจัย “5 อันดับความกังวลสูงสุด
ของประชากรโลก และ ไทย” พร้อม ค่าใช้จ่ายที่
เป็นภาระสูงสุด 3 อันดับ ที่ส่งผลต่อการครองชีพ
สาธารณูปโภค-น้ำมันเชื้อเพลิง และ อาหาร
วันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ณ ห้องประชุม เอ็มไพร์ ทาวเวอร์ บริษัท อิปซอสส์ จำกัด (Ipsos Ltd.) ผู้นำระดับโลกด้านการวิจัยตลาดและสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภค ผู้ให้บริการงานวิจัยครบวงจร โดย นางสาว อุษณา จันทร์กล่ำ (Usana Chantarklum) กรรมการผู้จัดการ ได้เปิดเผยถึงรายงานการ ศึกษาชุดพิเศษ “What Worries the World – What worries Thailand” พร้อม 5 อันดับความกังวลสูงสุดของประชากรโลก และ ไทย รวมถึงค่าใช้จ่าย 3 อันดับ ที่ส่งผลต่อการครองชีพ”
นางสาวอุษณา เปิดเผยว่า “รายงานชุดนี้ ประกอบด้วยข้อมูลสำคัญ 3 ส่วน คือ ด้านสังคม (Societal Focus) ด้านเศรษฐกิจ (Economic Focus) และ การปรับใช้ ESG ในธุรกิจและประสบการณ์ของผู้บริโภค (Embedding ESG in Experience) จากผลสรุปพบว่า พบว่า ภาวะเงินเฟ้อ เป็นความกังวลใจสูงสุดของประชากรโลกตลอด 15 เดือนที่ผ่านมา ส่วนความกังวลใจด้านอื่นประกอบด้วย ความยากจนและความไม่เท่าเทียมในสังคม / อาชญากรรม / ความรุนแรง และ การว่างงาน สถานการณ์ด้านการเงิน-การเมือง-คอร์รัปชั่น สำหรับประเทศไทย พบว่า ความกังวลอันดับหนึ่ง ได้แก่ ปัญหาทางด้านสังคมในเรื่องที่เกี่ยวกับการทุจริตทางการเงินหรือการเมือง ส่วนปัญหาความยากจนและความไม่เท่าเทียมกัน และ ปัญหาเงินเฟ้อ-มาเป็นอันดับสอง และ สาม ตามลำดับ โดยสิ่งที่ประชากรไทยกังวลว่าจะมีการปรับราคาขึ้นอีกในครึ่งปีหลัง คือ ภาระด้านสาธารณูปโภค และ น้ำมันเชื้อเพลิง กังวลสูงสุดในอัตราที่เท่ากัน คือ 65% และ ค่าใช้จ่ายด้านอาหาร ด้วยอัตรา 64%
นางสาวอุษณา เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ผู้คนในทุกประเทศเห็นพ้องต้องกันว่ารัฐบาลควรเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาความไม่เท่าเทียมกัน โดยมีสัดส่วนตามกลุ่ม ดังนี้ บทบาทจากภาครัฐ-ระหว่างอัตราเฉลี่ยของโลกและไทยในสัดส่วน 66 : 65% สื่อมวลชน 26 : 26% กลุ่มพนักงานลูกจ้าง 25 : 16% ระดับบุคคล 23 : 20% ผู้ปกครองและครู 22 : 19% องค์กรสนับสนุน 17 : 25% ผู้นำทางศาสนา 11 : 11% กลุ่มที่ประสบปัญหาความไม่เท่าเทียม 10 : 13% คนไทย 39% รายงานว่า อาชญากรรมเพิ่มขึ้น และมีความรุนแรงมากขึ้นในชุมชนของตนเองและละแวกใกล้เคียง โดย 44% ของคนไทย มั่นใจว่าการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดจริงจัง สามารถหยุดความรุนแรง และ อาชญากรรมที่ไม่รุนแรงได้
สำหรับด้านเศรษฐกิจ จากการสำรวจพบว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงเป็นความกังวลอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะไม่ใช่ความกังวล-อันดับหนึ่ง คนไทยมองโลกในแง่ร้ายต่อภาวะเศรษฐกิจ คาดการณ์อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูงขึ้นทั้งนี้ คนไทยส่วนใหญ่ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศใน
ปัจจุบันว่า “แย่” ถึง 57% ส่วน 72% ของคนไทยมองว่าประเทศกำลังถดถอย เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของโลกในอัตรา 49% โดยกังวลสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก ถึง 23% ประชากรไทยคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในปี
ในแง่ของการครองชีพ คนไทยคาดว่า ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค น้ำมันเชื้อเพลิง และอาหารจะสูงขึ้น เป็นผลสะท้อนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ โดยค่าใช้จ่ายสูงสุด 3 อันดับ ที่คาดว่าจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในอีก 6 เดือนข้างหน้า ดังนี้ 65% เชื่อว่าค่าสาธารณูปโภคเพิ่มสุงขึ้น เช่น แก๊ส ไฟฟ้า ฯลฯ (เทียบกับ 71% ทั่วโลก) 65% ค่าเชื้อเพลิงในการขับขี่ เช่น ดีเซล น้ำมันเบนซิน/เบนซิน ฯลฯ (เทียบกับ 60% ทั่วโลก 64% ค่าใช้จ่ายเพื่อการซื้ออาหาร (เทียบกับ 67% ทั่วโลก
การจับจ่ายในครัวเรือนอื่น ๆ รวมถึง ค่าใช้จ่ายในการเข้าสังคม โดยการสมัครสมาชิก จำนอง/เช่า อาจไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
สัดส่วนระหว่างความกังวลของประชากรโลก กับ ประชาชนคนไทย ดัง่นี้ 71 : 64 ค่าใช้จ่ายในการซื้ออาหารของคุณ 68 : 65 ค่าใช้จ่ายของสาธารณูปโภค เช่น ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า ฯลฯ 67 : 59 ค่าใช้จ่ายในการซื้อของในครัวเรือนอื่นๆ 60 : 65 ค่ารถ ค่าเชื้อเพลิง เช่น ดีเซล, เบนซิน / เบนซิน เป็นต้น. 54 : 39 ค่าใช้จ่ายโดยรวมเพื่อการสังสรรค์ เช่น. โรงภาพยนตร์ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ผับคลับ
44 : 32 ค่าใช้จ่ายโดยรวมของสมาชิกภาพ ต่างๆ เช่น Netflix, สมาชิกโรงยิม ฯลฯ 42 : 34 จำนอง / ค่าเช่าของคุณ
พร้อมทั้ง เปิดเผยถึงความคิดเห็นเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ได้แก่
81% สถานะของเศรษฐกิจโลก (เทียบกับ 73% ทั่วโลก) 79% นโยบายของรัฐบาลในประเทศของฉัน (เทียบกับ 70% ทั่วโลก) 78% ระดับอัตราดอกเบี้ยในประเทศของฉัน (เทียบกับ 71% ทั่วโลก) รวมถึง ปัจจัยอื่นๆ ได้แก่ การระบาดของ COVID-19 ผลกำไรที่มากเกินไป และความต้องการเพิ่มค่าจ้าง
73 : 81 % สภาวะของเศรษฐกิจโลก 71 : 78 % ระดับดอกเบี้ยในประเทศของฉัน 70 : 79 % นโยบายของรัฐบาลแห่งชาติของฉัน 64 : 67 % การรุกรานยูเครนของรัสเซียและผลที่ตามมา 63 : 74 % ธุรกิจที่ทำกำไรมากเกินไป 56 : 75 % การระบาดใหญ่ของโควิด-19 53 : 73 % คนงานเรียกร้องค่าจ้างเพิ่มขึ้น 50 : 61 % การย้ายถิ่นฐานในประเทศของฉัน
ถึงแม้จะเจอความท้าทาย แต่คนไทยก็ยังรู้สึกถึงการเติบโตในแง่ดี และ 2 ใน 3 ของคนไทย หรือ ประมาณ 67% ยังคิดว่า ประเทศกำลังมาถูกทาง ในขณะที่คนไทยบางส่วนยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับทิศทางของประเทศ และ ยังมีการมองโลกในแง่ดีในบางพื้นที่
54% จำนวนคนว่างงานในประเทศของฉัน เทียบกับ 68% ในเดือนพฤศจิกายน 2022 40% ภาษีที่คุณจ่าย เทียบกับ 51% ในเดือนพฤศจิกายน 2022 20% มาตรฐานการครองชีพของคุณเอง เทียบกับ 14% ในเดือนพฤศจิกายน 2022 19% รายได้ทิ้งของคุณ เทียบกับ . 13% ในเดือนพฤศจิกายน 2565
คนไทยคาด ชีวิตมีความหวัง คิดว่า 6 เดือนข้างหน้าจะมีแนวโน้มดีขึ้น
คนไทยส่วนใหญ่ค่อนข้างมองโลกในแง่ดี และคาดหวังว่าทิศทางโดยรวมของไทยในอีก 6 เดือนข้างหน้าจะมีแนวโน้มที่ดี โดย 61 % คาดว่าเศรษฐกิจในท้องถิ่นจะแข็งแกร่งขึ้น เทียบกับ 42% ในเดือนกุมภาพันธ์ และ 56% ในเดือนพฤษภาคม 2566
อิปซอสส์ ชี้ แรงกดดันภาคธุรกิจ แนะถึงยุค กลยุทธ “ESG” ต้องปรับใช้ โดย 80% ของผู้บริโภคเห็นตรงกัน ยินดีซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบ แม้ราคาจะแพงกว่าก็ตาม
ในส่วนของธุรกิจนั้น รายงานวิจัยของ อิปซอสส์ ชี้ให้เห็นถึง แนวโน้มและทิศทางในการปรับใช้ ESG ในธุรกิจและประสบการณ์ (Embedding ESG in Experience) โดยแนะแนวทางสำหรับแต่ละลักษณะกลุ่มธุรกิจ ที่ถูกผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อ ต้องมีกลยุทธการรับมือและปรับตัวในแนวทางที่แตกต่างกัน
ผลสำรวจของอิปซอสส์ ชี้ให้เห็นถึง ความจำเป็นในการขับเคลื่อนด้วย ESG โดยองค์กรจำนวนมากต่างได้รับแรงกดดันหากต้องการทำธุรกิจให้ยั่งยืน โดยเห็นจากผลสำรวจ Reputation Council Report ของ อิปซอสส์ ชี้ให้เห็นถึงความคิดเห็นในอัตรา 81% ของ สภาสมาชิกกิตติมศักดิ์ ตัวแทนนักสื่อสารองค์กรอาวุโสจากแบรนด์ระดับโลก (Ipsos Reputation Council Members)ต่างเห็นพ้องถึงความจำเป็นในการนำ กลยุทธ์ ESG ฝังเข้าเป็นส่วนสำคัญของระบบธุรกิจ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักสู่ความสำเร็จ ที่ยั่งยืน
ในแง่ของผู้บริโภค ต่างเชื่อว่า ธุรกิจเป็นตัวผลักดันที่ดี โดย 80% เห็นว่าแบรนด์สามารถทำเงินและสนับสนุนกิจกรรมดีๆ ได้ในเวลาเดียวกัน และ เกือบสองในสาม หรือ 64% กล่าวว่าพวกเขายินดีซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบ แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าก็ตาม
วิธีการที่แบรนด์สามารถสร้างคุณค่าและขับเคลื่อนความสัมพันธ์กับลูกค้าให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น 1 ทำในสิ่งที่นอกเหนือจากกิจกรรม ESG พื้นฐาน เช่น การลดของเสีย หรือการจ่ายภาษีอย่างถูกต้องแล้ว มิฉะนั้น ภาคธุรกิจหรือบริษัทยังคงทำกิจกรรมเดิมๆ ในการสร้างความยั่งยืน 2 ส่งมอบคุณค่า ที่แบรนด์ได้สัญญาไว้ผ่านประสบการณ์ที่มีต่อแบรนด์ทุกครั้ง ก็จะสามารถ สามารถสร้างความใกล้ชิดกับแบรนด์และเจาะจงใช้แบรนด์มากขึ้นในอนาคต 3 การปลูกฝังพื้นฐานด้านประสบการณ์ ESG ที่ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่เกี่ยวข้องกับข้อเสนอ หลักของแบรนด์ โดยแสดงให้เห็นผ่านประสบการณ์ ซึ่งน่าจะมีประสิทธิภาพที่สุด
ในแง่ของผู้บริโภค ต่างเชื่อว่า ธุรกิจเป็นตัวผลักดันที่ดี โดย 80% เห็นว่าแบรนด์สามารถทำเงินและสนับสนุนกิจกรรมดีๆ ได้ในเวลาเดียวกัน และ เกือบสองในสาม หรือ 64% กล่าวว่าพวกเขายินดีซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีความรับผิดชอบ แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่าก็ตาม
เกี่ยวกับอิปซอสส์
เป็นบริษัทวิจัยการตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก เราดำเนินธุรกิจใน 90 ตลาด และมีพนักงานรวมกว่า 18,000 คน นักวิจัย นักวิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญของเราได้ร่วมสร้างสรรค์สมรรถภาพเฉพาะ ตัวอันหลากหลาย ซึ่งนวัตกรรมด้านวิจัยตลาดของบริษัท สามารถสะท้อนให้เห็นถึงข้อมูลเชิงลึก ทั้งด้านความคิดเห็น ตลอดจนแรงจูงใจของผู้บริโภคทุกภาคส่วนได้ บริษัทมี โซลูชันในการทำวิจัยกว่า 75 รูปแบบ ซึ่งล้วนแล้วตั้งอยู่บนฐานของข้อมูลปฐมภูมิ ที่รวบรวมจากการสำรวจ การวิเคราะห์สื่อออนไลน์ และข้อมูลทั้งเชิงคุณภาพและเชิงประจักษ์
อิปซอสส์ก่อตั้งที่ประเทศฝรั่งเศส ในปี 1975 และเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น Euronext ปารีส เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1999 และ เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2538 เราเป็นหนึ่งในบริษัทกลุ่ม SBF 120 หรือกลุ่มบริษัทที่หุ้นมีการซื้อขายมากที่สุดในตลาดหุ้นฝรั่งเศส และกลุ่ม Mid-60 ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุดของฝรั่งเศส ทำให้เราสามารถใช้ Deferred Settlement Service (SRD) หรือบริการการระงับคดีรอตัดบัญชีได้
เกี่ยวกับรายงานการสำรวจ รายงานการวิจัยนี้ เป็นการจัดทำเพื่อประโยชน์ต่อทุกส่วนที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจ จัดทำเป็น“ค่าเฉลี่ยประเทศทั่วโลก” สะท้อนถึงค่าเฉลี่ยสำหรับทุกประเทศและทุกตลาดที่ทำการสำรวจ อีกทั้ง ไม่ได้ปรับตามขนาดประชากรของแต่ละประเทศหรือแต่ละตลาด และไม่ได้มีวัตถุประสงค์ เพื่อนำไปเป็นบรรทัดฐานเดียวกันในทุกพื้นที่
กลุ่มตัวอย่างในบราซิล ชิลี โคลอมเบีย อินเดีย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เม็กซิโก เปรู สิงคโปร์ แอฟริกาใต้ ตุรกี และ ไทย ที่มีลักษณะเป็นตัวเมืองมากกว่า มีการศึกษามากกว่า และ/หรือร่ำรวยกว่าประชากรโดยทั่วไป
No comments:
Post a Comment