กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหนุนเต็มที่กอล์ฟ รายการใหญ่ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" โชว์ซอฟท์พาวเวอร์ พร้อมตอกย้ำ "ศูนย์กลาง กอล์ฟของภูมิภาค" - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Friday 3 February 2023

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหนุนเต็มที่กอล์ฟ รายการใหญ่ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" โชว์ซอฟท์พาวเวอร์ พร้อมตอกย้ำ "ศูนย์กลาง กอล์ฟของภูมิภาค"



กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาหนุนเต็มที่กอล์ฟ
รายการใหญ่ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023"
โชว์ซอฟท์พาวเวอร์ พร้อมตอกย้ำ "ศูนย์กลาง
กอล์ฟของภูมิภาค" 16-19 ก.พ.ที่อมตะฯ

31 มกราคม 2566 – กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางกอล์ฟในภูมิภาคของไทยพร้อมโชว์ "ซอฟท์พาวเวอร์" ดึงนักท่องเที่ยวทำรายได้เข้าสู่ประเทศด้วยการประกาศให้การสนับสนุนการจัดการแข่งขันกอล์ฟ "ดีพีเวิลด์ทัวร์" รายการ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 66 ล้านบาท ณ สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี วันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2566

การแข่งขันกอล์ฟดีพีเวิลด์ทัวร์ (ยูโรเปี้ยนทัวร์ เดิม) รายการ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยจะจัดการแข่งขันที่สนามอมตะ สปริง คันทรี คลับ จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 16-19 กุมภาพันธ์ 2566 เป็นการกลับมาจัดการแข่งขันในประเทศไทยของดีพีเวิลด์ทัวร์อีกครั้ง หลังจากที่ครั้งล่าสุดได้จัดการแข่งขันเมื่อปี 2016 (พ.ศ.2559) ซึ่งการจัดการแข่งขันครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจาก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, ดีพี เวิลด์, อมตะสปริง คันทรีคลับ, บีเอ็มดับเบิลยู และสายการบินเอมิเรตส์



นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า การแข่งขันกอล์ฟ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" คือ การจัดอีเวนท์ที่เป็นการท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Sport Tourism) เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ ในขณะเดียวกันก็จะสร้างความมั่นใจให้กับประเทศไทย ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ หลังผ่านวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 มาแล้ว ซึ่งขณะนี้ กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งเรื่องของการท่องเที่ยวและกีฬาจะผนึกกำลังร่วมกัน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.), การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ให้การสนับสนุนอีเวนท์ระดับโลกในประเทศไทยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการเล่นกีฬา การพัฒนาการเล่นกีฬากอล์ฟไปสู่ระดับอาชีพ และเชิญชวนนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาที่ประเทศไทยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย

"ประเทศไทยถือว่าเป็นสวรรค์ของนักกอล์ฟ เนื่องจากมีสนามกอล์ฟที่สวยงาม มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับโลก กระจายอยู่ทั่วประเทศไทยมากกว่า 315 สนาม จัดเป็นอันดับ 4 ของภูมิภาคเอเชีย มีอากาศที่ดีเหมาะกับการฝึกซ้อมกอล์ฟได้ตลอดทั้งปี และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับกลุ่มนักกอล์ฟและครอบครัวรวมถึงผู้ติดตาม ทั้งสนามบินนานาชาติ โรงแรมที่ได้มาตรฐานในระดับนานาชาติ ความหลากหลายด้านอาหาร กิจกรรมนันทนาการ ประเพณี วัฒนธรรมและสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งการแข่งขันกอล์ฟ "ไทยแลนด์ คลาสสิก 2023" คือการประกาศความพร้อมที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นจุดมุ่งหมายหลักด้านกีฬากอล์ฟของภูมิภาคเอเชีย (GOLF TOURISM HUB OF ASIA) ซึ่งการแข่งขันกอล์ฟรายการนี้จะมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง ยูโรเปี้ยนทัวร์ เน็ตเวิร์ค ไปยัง 167 ประเทศทั่วโลก"

กอล์ฟไทยแลนด์ คลาสสิก 2023 นอกจากเป็นการแข่งขันของสุดยอดโปรจากทั่วโลก ยังจะเป็นมิติใหม่ของการจัดการแข่งขันกอล์ฟที่เต็มไปด้วยกิจกรรมตลอดทั้งสัปดาห์การแข่งขัน เต็มอิ่มด้วยอาหารและเครื่องดื่มละลานตา อาหารรสเลิศระดับรางวัล "มิชลิน บิบ กูร์มองด์" (MICHELIN BIB GOURMAND) การชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันทางจอ LED ยักษ์, บรรยากาศสนามกอล์ฟจำลอง, การแสดงดนตรีสดจากศิลปินชื่อดังของไทย, โซนสำหรับเด็ก, การโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย ในแบบ "THE HIDDEN GEMS OF THAILAND" ฯลฯ

การแข่งขันครั้งนี้จะมีนักกอล์ฟชั้นนำของทั้งดีพีเวิลด์ทัวร์และของไทยเข้าร่วมแข่งขันมากมาย ซึ่งในส่วนของนักกอล์ฟไทยจะนำโดย "โปรอาร์ม" กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตแชมป์ดีพีเวิลด์ทัวร์ 5 รายการ, "โปรช้าง" ธงชัย ใจดี โปรวัย 53 ปี ซึ่งได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่คว้าแชมป์ในดีพีเวิลด์ ทัวร์ เมื่อปี 2004 (พ.ศ.2547) ก่อนที่จะเป็นแชมป์ของดีพีเวิลด์ทัวร์ถึง 8 รายการ นอกจากนั้น เมื่อปีที่แล้ว ธงชัยก็ยังเป็นนักกอล์ฟไทยคนแรกที่ได้แชมป์ในพีจีเอทัวร์แชมเปี้ยนส์ อีกด้วย ทั้งนี้ ในการแข่งขัน "ไทยแลนด์ คลาสสิก" ครั้งล่าสุดที่ประเทศไทยเมื่อปี 2016 (พ.ศ.2559) ทั้ง กิรเดชและธงชัย ก็เข้าร่วมการแข่งขันด้วย ซึ่งในการกลับมาแข่งขันในรายการนี้อีกครั้ง ก็จะต้องเพิ่มความมุ่งมั่นมากขึ้นเพื่อโอกาสที่จะทำให้ถ้วยแชมป์อยู่ในประเทศไทยให้ได้



อย่างไรก็ตาม โปรไทยจะต้องดวลกับโปรกอล์ฟระดับชั้นนำของยุโรปอย่าง โธมัส บียอร์น โปรมากประสบการณ์จากเดนมาร์กวัย 51 ปี ดีกรีแชมป์ไรเดอร์คัพ ซึ่งเป็นโปรจากสแกนดิเนเวียคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่เคยได้รับเกียรติให้ทำหน้าที่กัปตันทีมยุโรปคว้าแชมป์ไรเดอร์คัพ 2018 นอกจากนี้ยังมีโปรคู่แฝดที่น่าจับตาอย่าง นิโคไล และ ราสมุส ฮอยการ์ด จากเดนมาร์ก ที่ต้องการสร้างผลงานเพื่อติดทีมไรเดอร์คัพโรเบิร์ต แมคอินไทร์ โปรสกอตติช วัย 26 ปี ซึ่งคว้าแชมป์ ดีพีเวิลด์ ทัวร์ 2 รายการ และ ราฟา คาเบร์รา เบลโญ โปรชาวสเปน วัย 38 ปี แชมป์ ดีพีเวิลด์ ทัวร์ 4 รายการ ที่ตอบรับเข้าร่วมการแข่งขันเช่นกัน โดยแฟนกอล์ฟที่สนใจเข้าชมการแข่งขัน สามารถลงทะเบียนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ www.ticketmelon.com/event/thailandclassic

ข้อมูลเกี่ยวกับ ดีพีเวิลด์ ทัวร์ - รีแบรนด์จากชื่อเดิม "ยูโรเปี้ยนทัวร์" ตั้งแต่ปี 2022 ในโอกาสที่ยูโรเปี้ยนทัวร์มีอายุครบ 50 ปี (เริ่มในปี 1972) โดยในปฏิทินการแข่งขันปี 2023 ดีพีเวิลด์ ทัวร์ จะจัดแข่งขันตลอดทั้ง 12 เดือน รวมทั้งสิ้น 39 ทัวร์นาเมนท์ใน 26 ประเทศทั่วโลก ชิงเงินรางวัลรวม 144.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 5335.4 ล้านบาท)

ติดตามข่าวสารกิจกรรม รายการไทยแลนด์ คลาสสิก ได้ที่เว็บไซต์ www.europeantour.com/dpworld-tour หรือทางเฟซบุ๊ก /www.facebook.com/golfthailandclassic และอินสตาแกรม https://www.instagram.com/golfthailandclassic

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์