SAK ร่วมทุน ทีซี รีนิวอะเบิ้ล จัดตั้ง ‘ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่’ รุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป สำหรับที่อยู่อาศัยพร้อมให้บริการสินเชื่อ - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Thursday 5 January 2023

SAK ร่วมทุน ทีซี รีนิวอะเบิ้ล จัดตั้ง ‘ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่’ รุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป สำหรับที่อยู่อาศัยพร้อมให้บริการสินเชื่อ



SAK ร่วมทุน ทีซี รีนิวอะเบิ้ล จัดตั้ง 
‘ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่’ รุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อป
สำหรับที่อยู่อาศัยพร้อมให้บริการสินเชื่อ

SAK ร่วมทุน ทีซี รีนิวอะเบิ้ล จัดตั้ง ‘ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่’ รุกธุรกิจโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัยพร้อมให้บริการสินเชื่อ สร้างความยั่งยืนด้านพลังงาน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

‘บมจ.ศักดิ์สยามลิสซิ่ง’ หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อย ร่วมทุน ‘ทีซี รีนิวอะเบิ้ล เอ็นเนอร์ยี่’ ผู้ดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์รูฟท็อป ตั้งบริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด บุกธุรกิจติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป พร้อมให้บริการด้านสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัย สร้างความยั่งยืนด้านพลังงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

นายศิวพงศ์ บุญสาลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศักดิ์สยามลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SAK ผู้ให้บริการสินเชื่อรายย่อยภายใต้แบรนด์ ‘สินเชื่อศักดิ์สยาม’ เปิดเผยว่า ด้วยนโยบายของบริษัทฯ มีความมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจสินเชื่อเพื่อสังคม เป็นแหล่งเงินทุนในการประกอบอาชีพ ล่าสุด SAK เดินหน้าส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ภายในครัวเรือน เพื่อวางรากฐานเศรษฐกิจในครัวเรือนสู่ความยั่งยืน จึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ร่วมทุนกับ บริษัท ทีซี รีนิวอะเบิ้ล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์รูฟท็อปชั้นนำของประเทศไทย จัดตั้งบริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท โดย SAK ถือหุ้น 35% และบริษัท ทีซี รีนิวอะเบิ้ล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ถือหุ้น 65% คาดว่าจะจัดตั้งบริษัทร่วมทุนภายในม.ค. 2566

ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญการขยายการให้บริการสินเชื่อเพื่อการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัย สนับสนุนภาคประชาชนเข้าถึงการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดได้ง่าย และกว้างขวาง ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญการออกแบบและติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปมากว่า 10 ปี ให้กับภาคธุรกิจโรงงาน สถานศึกษา มากกว่า 230 โครงการ หรือมากกว่า 14 เมกกะวัตต์ ทำให้เกิดการ Synergy นำจุดแข็งของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชนได้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป ที่มีคุณภาพและมาตรฐานในราคาที่เข้าถึงได้ ส่งผลดีต่อการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าภาคครัวเรือนในระยะยาว ตลอดจนลดการพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันเพื่อร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยสร้างความยั่งยืนด้านพลังงานให้กับโลก

ทั้งนี้ บริษัท ศักดิ์สยาม ทีซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด จะดำเนินธุรกิจติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัย โดย SAK จะเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมการตลาดและให้บริการสินเชื่อโซลาร์รูฟท็อปให้แก่ประชาชนที่สนใจผ่านสาขาของศักดิ์สยามลิสซิ่งที่มีมากกกว่า 1,029 สาขา ครอบคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในไตรมาส 1/2566 และผลักดันให้พอร์ตสินเชื่อของศักดิ์สยามลิสซิ่งมีความหลากหลายและตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา SAK มีความมุ่งมั่นเป็นผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อสังคม ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ตอบโจทย์สังคมไทย เพื่อช่วยเหลือประชาชนเข้าถึงแหล่งเงินทุนรวมถึงนำเสนอสินค้าและบริการอื่นๆ ที่ดีซึ่งในภาวะที่ค่าสาธารณูปโภคโดยเฉพาะค่าไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้น เรามั่นใจว่าสินเชื่อเพื่อการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัยจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ทำให้เศรษฐกิจภาคครัวเรือนเกิดความเข้มแข็ง” นายศิวพงศ์ กล่าว

นายภูฤทธิ์ เล้าเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท ทีซี รีนิวอะเบิ้ล เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด กล่าวว่า การร่วมทุนในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญของบริษัทฯ ในการนำองค์ความรู้ด้านการออกแบบและติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อปภาคธุรกิจไปสู่การให้บริการแก่ภาคครัวเรือน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าต่อเดือนตั้งแต่ 2,000 – 7,000 บาท อีกทั้งยังมีบริการดูแลรักษาตัวแผงโซลาร์เซลล์และคอยตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงานของระบบตลอดการใช้งาน โดยมีทีมวิศวกรคอยตรวจสอบการทำงานของระบบ เพื่อให้การผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในระยะยาว

“จุดเด่นของของแผงโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัยมีทั้งหมด 2 ระบบ แต่ที่นิยมการติดตั้งโซลาร์เซลล์จะเป็นระบบ On Grid ที่ต้องเชื่อมโครงข่ายหรือต่อคู่ขนานกับการไฟฟ้า ซึ่งโดยปกติแล้วการติดตั้งโซลาร์เซลล์ช่วยลูกค้าประหยัดค่าใช้จ่ายไฟฟ้าโดยเฉลี่ยได้ไม่ต่ำกว่า 70% ต่อรอบบิล และหากผลิตพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์เกินความต้องการใช้งานไฟฟ้าเวลากลางวัน เจ้าของมิเตอร์ยังสามารถขายคืนไฟฟ้าส่วนเกินให้กับภาครัฐได้” นายภูฤทธิ์ เล้าเจริญ กล่าว

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดการติดตั้งระบบโซลาร์รูฟท็อป นับเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและเติบโตสูง เนื่องจากสอดรับนโยบายภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมภาคธุรกิจและภายในครัวเรือนใช้พลังงานสะอาด โดยคาดการณ์ว่าตลาดโซลาร์รูฟท็อปในประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดดเฉลี่ยปีละ 22% หรือแตะระดับ 6.7 หมื่นล้านบาทในปี 2568 (อ้างอิงจาก ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics) ซึ่งการผนึกกำลังกับศักดิ์สยามลิสซิ่ง ผู้ให้บริการสินเชื่อเพื่อสังคม วางเป้าหมายการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปสำหรับที่อยู่อาศัยภายใน 3 ปีข้างหน้า ไม่น้อยกว่า 100,000 ครัวเรือน และสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ประมาณ 500 เมกะวัตต์

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์