4 จุดเปลี่ยนการตลาด สู่เทรนด์และ กลยุทธ์การตลาดที่มาแรงในปี 2023 - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Friday, 6 January 2023

4 จุดเปลี่ยนการตลาด สู่เทรนด์และ กลยุทธ์การตลาดที่มาแรงในปี 2023



4 จุดเปลี่ยนการตลาด สู่เทรนด์และ
กลยุทธ์การตลาดที่มาแรงในปี 2023

เพราะการตลาดเป็นเรื่องสำคัญ เหล่านักการตลาด เจ้าของกิจการหรือธุรกิจเอง ก็ต้องตั้งตัวรับการเปลี่ยนแปลงหลากหลายมิติทั้งในโลกธุรกิจ การตลาดที่รวดเร็วในทุกๆ ปี

สมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย จึงทำการรวบรวม และสรุปออกมาเป็นจุดเปลี่ยนการตลาด สู่เทรนด์และกลยุทธ์การตลาดที่มาแรงในปี 2023 มี 4 แง่มุม ดังนี้

1. Perspective Changer จุดเปลี่ยนด้านวิสัยทัศน์

ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ นายกสมาคมการตลาดแห่งประเทศไทย ได้กล่าวเกี่ยวกับเรื่องจุดเปลี่ยนทางวิสัยทัศน์ไว้ว่า ในยุคนี้ ทิศทางขององค์กรต้องย้อนกลับมาสู่หัวใจของผู้บริโภค ด้วยคำว่า C.A.R.E ทั้งในมุมของ “แคร์” ที่แปลว่า “ห่วงใย” หรือแปลอีกอย่างคือ

· C - Careful - ในโลกแห่งการแข่งขันที่ต้องการความรวดเร็วในการตัดสินใจ แบรนด์ต้องมีความระมัดระวัง ต้องคิดพิจารณาอย่างรอบด้านและรอบคอบ

· A - Authentic - เป็นตัวจริง ทำธุรกิจด้วยความชัดเจน โปร่งใส ตั้งใจ และ ทำจริง

· R - Resilience - มีความยืดหยุ่น พร้อมปรับตัวคือคุณสมบัติสำคัญของความอยู่รอด เพราะธุรกิจยุคใหม่ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว

· และสุดท้าย คือ E- Empathy – ทำความเข้าใจลูกค้าทั้งภายนอกและภายในองค์กรด้วยหัวใจ

2. Practice Changer จุดเปลี่ยนด้านวิธีการ

ในโลกธุรกิจยุคใหม่ “ประสบการณ์ คือ หัวใจสำคัญของความสำเร็จ” แต่ทั้งนี้ ต้องเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ตอบโจทย์และตอบใจกลุ่มเป้าหมาย แบรนด์ยุคใหม่ที่ประสบความสำเร็จนั้น เน้น “การสร้างคุณค่า” ก่อน “การสร้างมูลค่า” เพราะเมื่อแบรนด์มีคุณค่าในใจของลูกค้า การเติบโตและผลลัพธ์ทางธุรกิจจะตามมาเอง ตัวอย่างที่น่าสนใจ คือ คุณนัทธมน พิศาลกิจวนิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของและผู้ก่อตั้ง แบรนด์สุกี้ตี๋น้อย ได้มาแชร์เรื่องราวในหัวข้อ “Mission - Action - Success” ว่า หัวใจความสำเร็จของสุกี้ตี๋น้อย คือ เรื่องของการปรับวิธีการ กล้าที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง ทำในสิ่งที่แบรนด์อื่นไม่ได้ทำ ทั้งในเรื่องการเสนอสิ่งดีๆให้ผู้บริโภค ในราคาที่จับต้องได้ และตอบใจลูกค้ารอบด้าน ทั้งเรื่องคุณภาพอาหารที่สูง คุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา การบริการที่เน้นความเข้าใจและใส่ใจลูกค้า และความสะดวกสบาย ทั้งเรื่องร้านที่เทียบเท่าร้านใหญ่ในห้าง หรือที่จอดรถที่กว้างขวางสะดวกสบาย และเวลาที่เปิดดึกเพื่อตอบโจทย์ของลูกค้า เพราะคุณนัทธมนกล่าวว่า เธอมองว่าตัวเองไม่ใช่ผู้คลั่งไคล้ธุรกิจร้านอาหาร แต่เป็น “นักแก้ปัญหา” ที่มุ่งบริหารธุรกิจที่สร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าไปแล้วไม่ผิดหวัง

3. Platform Changer จุดเปลี่ยนด้านเทคโนโลยี

ผลสำรวจ “Marketing Trends : 2023 Way Forwards” ซึ่งเป็นการสำรวจความคิดเห็นในกลุ่ม MAT CMO Council จากผู้บริหารการตลาด (CMO) ขององค์กรชั้นนำ 156 บริษัท ได้ระบุว่า ในปี 2566 ที่กำลังจะมาถึงนี้ นักการตลาดให้ความสำคัญในการลงทุนกับ 1. คอมเมิร์ซแพลตฟอร์ม 2. คอนเทนท์แพลตฟอร์ม 3. เพย์เมนต์แพลตฟอร์ม จริงอยู่ว่า ทั้ง 3 แพลตฟอร์มนี้ ถูกพัฒนาโดยเทคโนโลยีดิจิทัล แต่ วัตถุประสงค์หลักของการใช้งาน ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในโลกออนไลน์เท่านั้น เราก้าวเข้าสู่การตลาดยุคใหม่ ที่ไม่ใช่แค่โลกออนไลน์ ออฟไลน์ หรือ Virtual แต่เป็นการสร้าง จักรวาลของผู้บริโภค ที่เชื่อมต่อกันอย่างไร้รอยต่อ โดยมีผู้บริโภคเป็นศูนย์กลาง และการเลือกใช้หรือพัฒนาต่อยอดแพลตฟอร์มต่างๆ ก็เพื่ออำนวยความสะดวก และสร้างประสบการณ์สุดประทับใจไร้รอยต่อให้แก่ลูกค้านั่นเอง

4. Planet Changer จุดเปลี่ยนด้านคุณค่าของธุรกิจต่อโลกและสังคม

ในปัจจุบันลูกค้าให้ค่าและให้ความรักกับแบรนด์ที่รักโลกและรักพวกเขา เราจึงเห็นเทรนด์การเติบโตของเรื่องกลยุทธ์การตลาดยั่งยืน ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมและสังคมมากขึ้น โดยการทำการตลาดด้วยความรับผิดชอบ เป็นมิตร และ ยั่งยืน จึงไม่ใช่แค่เรื่องการทำกิจกรรมผิวเผินชั่วครั้งชั่วคราว แต่เป็นการลงลึกถึงกระบวนการ (in process) และเปลี่ยนจากแค่ การทำกิจกรรมเพื่อสังคม หรือที่เรียกว่า Corporate Social Responsibility (CSR) มาเป็นการสร้างสรรค์และแบ่งปันคุณค่าร่วมกัน หรือ Create Shared Value (CSV) ซึ่งเป็นการสร้างคุณค่าธุรกิจคู่สังคมอย่างจริงจัง โดย ​คุณประภัสรา อร่ามวงศ์สมุทร Director จาก Mini Thailand กล่าวบนเวทีสัมมนา ในหัวข้อ “Our Business, Our Planet, Our Future พลังบวกเปลี่ยนโลก พลังบวกเปลี่ยนผลลัพธ์” ว่า แม้ธุรกิจรถยนต์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่สร้างมลภาวะให้กับโลก แต่ก็สามารถขับเคลื่อน ทั้ง 3P คือ Profit (ผลกำไร) People (สังคมและผู้คน) Planet (สิ่งแวดล้อม) ไปด้วยกันได้ โดยเป็นการขับเคลื่อนทั้งระบบ เพื่อลดมลภาวะตลอดกระบวนการ โดยแบรนด์มินิมีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าทั้งหมดเพื่อลดมลภาวะแก่โลก แต่สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่การลด CO2 ตอนท้ายเท่านั้น แต่ต้องเริ่มตั้งแต่สายการผลิต การเลือกวัสดุต่างๆ ซึ่งในส่วนของมิน 99% ของขยะที่เกิดขึ้นในกระบวนการผลิตสามารถนำไปเข้าในกระบวนการรีไซเคิลได้ท้ังหมด ซึ่งนอกจากดีต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจได้ด้วย

จากเทรนด์ความเปลี่ยนแปลงทั้ง 4 เราจะเห็นว่า แม้เทคโนโลยีจะก้าวไกลไปแค่ไหน แต่สุดท้ายแล้ว ศูนย์กลางของการตลาดคือผู้บริโภค เมื่อองค์กรนั้นมีทั้งความจริงใจ เข้าใจ และใส่ใจ ผลที่จะสะท้อนกลับมา ย่อมเป็นผลเชิงบวกที่จะนำไปสู่ผลบวกทางธุรกิจอย่างแน่นอน

หมายเหตุ : ข้อมูลอ้างอิงจากงาน “Thailand Marketing Day 2022 : The Game Changer” สุดยอดฟอรั่มการตลาด

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์