อุตสาหกรรมไทยจะเดินต่ออย่างไร ภายใต้ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Saturday 24 December 2022

อุตสาหกรรมไทยจะเดินต่ออย่างไร ภายใต้ ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว


อุตสาหกรรมไทยจะเดินต่ออย่างไร ภายใต้
ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว

วันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 24 ในเดือนธันวาคม 2565 ภายใต้หัวข้อ “อุตสาหกรรมไทยจะเดินต่ออย่างไร ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว” พบว่า จากการที่ประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก ทั้งสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น ส่งสัญญาณชัดเจนว่าเศรษฐกิจกำลังเข้าสู่ภาวะชะลอตัว จากผลกระทบของสงครามและปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยืดเยื้อ แรงกดดันต่อวิกฤตพลังงาน และสถานการณ์เงินเฟ้อทั่วโลกที่ยังอยู่ในระดับสูง ล่าสุดองค์การการค้าโลก (WTO) ประเมินการค้าโลก ปี 2566 จะชะลอตัวลงเหลือเพียง 1% เท่านั้น จากปี 2565 ที่การค้าโลกขยายตัวถึง 3.5% ซึ่งจากผลกระทบของตลาดส่งออกที่ชะลอตัวทั้งในยุโรป และสหรัฐฯ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ มองว่า จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยใน “ระดับปานกลาง”โดยมีปัญหาต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูง ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ และอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยหลักที่กดดันเศรษฐกิจโลก

จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ผู้บริหาร ส.อ.ท. จึงเสนอให้ภาครัฐช่วยดูแลต้นทุนราคาพลังงานให้เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้ รวมทั้งเร่งปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ลดภาระต้นทุนในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการ และดึงดูดการลงทุนเข้ามาในประเทศไทย ด้านผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเองก็จำเป็นจะต้องเร่งปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น (LEAN) และมีการบริหารจัดการสต๊อกสินค้า เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่มีความผันผวน

ทั้งนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ มองว่า การพัฒนาเศรษฐกิจตาม BCG Model จะเป็นนโยบายที่สำคัญและมีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไทยในอนาคต โดยจะก่อให้เกิดอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานสะอาดในการผลิตสินค้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรผ่านอุตสาหกรรมการเกษตร ช่วยเพิ่มสินค้าใหม่ ๆ ที่ผลิตโดยใช้นวัตกรรม และเทคโนโลยีที่มีมูลค่าเพิ่มสูงให้กับประเทศ และที่สำคัญจะช่วยดึงการลงทุนเข้าประเทศ


จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 226 ท่าน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 76 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด มีสรุปผลการสำรวจ FTI Poll ครั้งที่ 24 จำนวน 5 คำถาม ดังนี้

1. จากผลกระทบของตลาดส่งออกที่ชะลอตัวทั้งในยุโรป และสหรัฐฯ ส่งผลต่ออุตสาหกรรมในระดับใด (Single choice)
อันดับที่ 1 : ปานกลาง 47.3%
อันดับที่ 2 : น้อย 27.0%
อันดับที่ 3 : มาก 25.7%

2. ภาคอุตสาหกรรมมีความกังวลต่อปัจจัยที่ส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอในเรื่องใด (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : ต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวสูงขึ้นจากราคาพลังงานที่ยังอยู่ในระดับสูง 88.5%
และปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ
อันดับที่ 2 : อัตราเงินเฟ้อในประเทศเศรษฐกิจหลักที่อยู่ในระดับสูง 68.1%
และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น
อันดับที่ 3 : กำลังซื้อในบางประเทศชะลอตัว กระทบภาคการผลิตและส่งออก 54.4%
อันดับที่ 4 : ปัญหาความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical) 37.2%

3. ภาคอุตสาหกรรมจะปรับตัวรับมือกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวอย่างไร (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ลดค่าใช้จ่าย (LEAN) 80.5%
และบริหารสต๊อกสินค้า
อันดับที่ 2 : บริหารความเสี่ยงทางการเงิน และมีการสำรองเงินทุนใช้ในยามฉุกเฉิน 55.8%
อันดับที่ 3 : นำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาช่วยในการดำเนินธุรกิจ 50.0%
อันดับที่ 4 : พัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์เทรนด์พฤติกรรมผู้บริโภคใหม่ๆ 42.9%

4. ภาครัฐควรช่วยเหลือผู้ประกอบการในเรื่องใด เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : ดูแลราคาพลังงานและค่าไฟฟ้าให้เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้ 86.3%
อันดับที่ 2 : ปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 63.3%
ของประเทศ
อันดับที่ 3 : ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ เพื่อเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ประชาชน 50.4%
อันดับที่ 4 : ส่งเสริมการส่งออก เปิดตลาดใหม่ๆ และเร่งเจรจาความตกลงการค้า 43.4%
ระหว่างประเทศ

5. นโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของภาครัฐในเรื่องใดที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต (Multiple choices)
อันดับที่ 1 : การพัฒนาเศรษฐกิจตาม BCG Model 64.6%
อันดับที่ 2 : การส่งเสริม 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) 56.6%
อันดับที่ 3 : การยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่ Industry 4.0 56.2%
อันดับที่ 4 : การพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ และเขตเศรษฐกิจพิเศษ 46.9%

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์