มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์และมหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนด้านการแพทย์ - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Saturday 9 July 2022

มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์และมหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนด้านการแพทย์



มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์และมหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ
ในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับ
ชุมชนด้านการแพทย์
โภชนาการ และวิทยาศาสตร์การเกษตรใน
ภูมิภาคเอเชีย

บรรยายภาพ จากซ้าย (ที่ 5 ) นางดีพาลี คานนา รองประธานประจำภูมิภาคเอเชีย มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ (ที่ 6) นางเอลิซาเบธ ยี รองประธานบริหารฝ่ายกลยุทธ์และบุคคล มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ และ (ที่ 7) ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนด้านการแพทย์ โภชนาการ และวิทยาศาสตร์การเกษตรในภูมิภาคเอเชีย

มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ให้การสนับสนุนทุนจำนวนกว่า 78 ล้านบาท (2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) แก่มหาวิทยาลัยมหิดล

ด้วยความมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาประเทศไทยมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์มีประวัติความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลมาอย่างยาวนาน และให้การสนับสนุนทุนมากกว่า 3 ร้อยล้านบาท (8.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ผ่าน 36 โครงการในด้าน สุขภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ และโภชนาการ ตั้งแต่ปี 2533 เป็นต้นมา

ล่าสุด มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์สนับสนุนทุนมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท (1 แสนห้าพันดอลลาร์สหรัฐ) ในการเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ผู้กําหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับระบบอาหาร และผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อพัฒนาความมั่นคงด้านสาธารณสุขและอาหารในประเทศไทย ตลอดจนประเทศกําลังพัฒนาอื่นๆ โดยความร่วมมือในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) อีกทางหนึ่งด้วย

กรุงเทพฯ, 7 กรกฎาคม 2565 – จากคำแนะนำและการสนับสนุนของกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) กระทรวงการต่างประเทศ ล่าสุดมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อยกระดับและเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์ สาธารณสุข และโภชนาการในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย

มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์จะสนับสนุนเงินจำนวนกว่า 3 ล้านบาท ในการฝึกอบรมแก่ผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยมหิดลด้านเทคโนโลยี การแพทย์สุขภาพของมารดา และโภชนาการในประเทศอาเซียน

นอกจากนี้ มูลนิธิฯ และมหาวิทยาลัยยังได้ดําเนินโครงการร่วมกันอีก 2 โครงการ คือการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการใช้องค์ความรู้ด้านจีโนมหรือพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต และการสร้างขีดความสามารถในการตรวจวัดคุณภาพทางโภชนาการ ส่งผลให้มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการสนับสนุนโดยรวมจากมูลนิธิด้วยเงินจํานวนกว่า 78 ล้านบาท (2.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีที่ผ่านมานี้

สืบเนื่องจากการลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและมหาวิทยาลัยมหิดลในการเสริมสร้างศักยภาพสําหรับศูนย์การศึกษาด้านการแพทย์และวิทยาศาสตร์สุขภาพในเดือนสิงหาคม พ. ศ. 2564 โดยโครงการปัจจุบันภายใต้ความร่วมมือระหว่างมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์และมหาวิทยาลัยมหิดลได้รับการสนับสนุนจากกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของรัฐบาลไทยที่บริหารความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างประเทศ

นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) กล่าวว่า "ด้วยภารกิจในการเสริมสร้างความร่วมมือหุ้นส่วนเพื่อการการพัฒนา ให้มีส่วนในการสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้กำหนดความสำคัญของการดำเนินงานความร่วมมือให้เกิดความมั่นคงใน 4 ด้าน ได้แก่ การจ้างงาน อาหาร สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ตลอดจนสุขภาพ

บันทึกความเข้าใจ ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศกับมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นหนึ่งในโครงการริเริ่มความร่วมมือด้านการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อนโยบายความมั่นคงด้านสุขภาพ โดยเน้นการเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์ของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อส่งมอบการบริการที่ดียิ่งขึ้นแก่คนไทยและส่งต่อความรู้และความเชี่ยวชาญให้กับประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ"

กรมความร่วมมือระหว่างประเทศและมูลนิธิฯ มีเป้าหมายที่สอดคล้องกัน และเล็งเห็นว่าความร่วมมือครั้งล่าสุดร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล จะผลักดันโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่ในด้านสาธารณสุขและโภชนาการ เพื่อขยายผลลัพธ์ของภารกิจ ร่วมในการพัฒนาประเทศและภูมิภาค

เมื่อกล่าวถึงความร่วมมือครั้งใหม่นี้ ดีพาลี คานนา (Deepali Khanna) รองประธานประจำภูมิภาคเอเชีย มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ ให้ความเห็นว่า "ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหิดลหลายครั้ง เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพความเป็นผู้นำอย่างต่อเนื่องในด้านการวิจัยทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ในเอเชีย พร้อมนี้ด้วยความพร้อมด้านการลงทุน ประวัติศาสตร์ และเทคโนโลยีของประเทศไทย เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยมหิดลและกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการขยายงานเพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งและสร้างศูนย์ความเป็นเลิศในสถาบันการศึกษา"

ศาสตราจารย์ นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า "มหาวิทยาลัยมหิดลมีความมุ่งมั่นในการสานต่อการพัฒนาความรู้ร่วมกับการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่สังคม ภายใต้การสนับสนุนจากมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์และกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ เราได้ร่วมเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคและระดับโลกในการส่งเสริมเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพในด้านโรคระบาด การบริการด้านสุขภาพและการพัฒนาทักษะ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านอาหารและโภชนาการ และการเรียนรู้ร่วมกันของชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น โดยมหาวิทยาลัยมหิดลยังคงใช้ทรัพยากรหลักของเราอย่างต่อเนื่องเพื่อประยุกต์ความรู้เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ"

มูลนิธิฯมีสองโครงการด้านสาธารณสุขและโภชนาการที่ได้ดำเนินการมาแล้วระยะหนึ่งกับมหาวิทยาลัยมหิดล โดยมูลนิธิฯได้มอบเงินจำนวน 42 ล้านบาท (1.2 ล้านดอลลาร์) แก่หน่วยจีโนมและเวชศาสตร์วิวัฒนาการ (Genomics and Evolutionary Medicine Unit: GEM) คณะเวชศาสตร์เขตร้อน มหาวิทยาลัยมหิดลในปี 2564 ผ่าน Pandemic Preventive Institute ของมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนาวิธีการรับมือต่อโรคระบาดด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี ส่งผลให้ทีมสืบสวนจีโนมของมหาวิทยาลัยประสบความสำเร็จในการลดระยะเวลาของการถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อไวรัสก่อโรคโควิด-19 จากมากกว่าหนึ่งเดือนเหลือน้อยกว่าหนึ่งสัปดาห์ และทีมยังได้เพิ่มการสนับสนุนไปยังทีมสืบสวนจีโนมในอาเซียน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการตรวจจับและรับมือกับเชื้อโควิด-19 ภัยคุกคามจากไวรัสอื่นๆ และการระบาดใหญ่ของภูมิภาค

นอกจากโครงการข้างต้นมหาวิทยาลัยมหิดลยังทำงานร่วมกับมูลนิธิฯ เพื่อต่อสู้กับภาวะทุพโภชนาการ (ทั้งภาวะโภชนาการต่ำและภาวะโภชนาการเกิน)

ในประเทศในซีกโลกใต้ โดยใช้มาตรฐาน Global Diet Quality Score (GDQS) เพื่อทำความเข้าใจคุณภาพของอาหารในพื้นที่นั้นๆ โดยเงินทุนจำนวน 17 ล้านบาท (500,000 เหรียญสหรัฐ) จะช่วยให้มหาวิทยาลัยเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถของผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการในการสำรวจประชากรจำนวนมาก โดยใช้มาตรฐาน GDQS เพื่อเพิ่มคุณภาพของอาหาร และเป็นตัวบ่งชี้ทางโภชนาการของประชากรอีกด้วย

บทบาทมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ในประเทศไทยในปี พ.ศ. 2460 

มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ได้ช่วยดำเนินการปราบปรามการแพร่ระบาดของโรคพยาธิปากขอ และช่วยริเริ่มการก่อตั้งกระทรวงสาธารณสุขของประเทศไทย
ร่วมมือกับรัฐบาลไทยระหว่างปี พ.ศ. 2460-2477 เพื่อก่อตั้งการศึกษาด้านการแพทย์และการพยาบาลในประเทศภายใต้การประสานงานร่วมกับสมเด็จฯ พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ครั้งที่ยังดำรงพระอิสริยยศเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลยเดช กรมขุนสงขลานครินทร์
ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 มูลนิธิฯ ได้ให้การสนับสนุนมากกว่า 36 โครงการแก่มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมอบเงินทุนกว่า 3 ร้อยล้านบาท สำหรับโครงการริเริ่มในด้านการเกษตร สุขภาพ และโภชนาการ
มูลนิธิฯ ได้ขยายโครงการ Urban Climate Change มายังประเทศไทยโดยรวมหาดใหญ่และเชียงราย (รวมถึงเมืองอื่นๆ ของไทย) เพื่อสนับสนุนโครงการ 100 Resilient Cities Network และโครงการเครือข่ายเมืองในเอเชียเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ Asian Cities Climate Change Resilience Network (ACCCRN)

มูลนิธิฯ ยังคงสนับสนุนโรงพยาบาลศิริราชและมหาวิทยาลัยมหิดล และเคยร่วมงานกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น รวมถึง นักวิจัยและนักวิชาการสองท่านคือ รศ. ดร. จุลภาค คุ้นวงศ์ และบุรชัย สนธยานนท์ เพื่อทำการวิจัยการเกษตรและรับรองความมั่นคงทางอาหารในประเทศ

เกี่ยวกับมูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์

มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์ได้รวมผู้คนจากทั่วโลกเพื่อร่วมกันแก้ปัญหาที่ท้าทายที่สุดในโลกและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษยชาติเป็นเวลากว่า 100 ปี ในทุกวันนี้ที่โลกมีทรัพยากรและศักยภาพล้นเหลือ ยังมีผู้คนอีกมากที่ต้องเผชิญกับความยากไร้ มูลนิธิร็อคกี้เฟลเลอร์จึงต่อสู้เพื่อรักษาพื้นฐานของความเป็นอยู่ที่ดีของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นในด้านสุขภาพ อาหาร พลังงาน และการจ้างงาน และเป็นที่เข้าถึงได้สำหรับทุกคนและทุกที่ในโลก วิธีการดำเนินงานของมูลนิธิมีพื้นฐานมาจากการเรียนรู้จากสิ่งที่เป็นประสิทธิผลมามากกว่าศตวรรษ ซึ่งเป็นการดำเนินงานภายใต้หลักการวิทยาศาสตร์ ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์อย่างแม่นยำ รวมถึงการรวมกลุ่มและส่งเสริมผู้อื่น และมุ่งเน้นที่ผลลัพธ์จริงเพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คน

เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยมหิดล

มหาวิทยาลัยมหิดลมีที่มาจากโรงเรียนแพทย์ (โรงพยาบาลศิริราชในปัจจุบัน) ซึ่งก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2432 ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นสถาบันการศึกษาและโรงพยาบาลระดับชั้นนำของประเทศไทย และได้พัฒนาเป็นแหล่งการวิจัยครบด้านที่สนับสนุนชุมชนระดับท้องถิ่นและระดับโลก นวัตกรรมด้านการวิจัยและการศึกษาที่อยู่บนพื้นฐานของความต้องการ และ เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ที่ดีของพลเมืองโลก นอกจากนี้มหาวิทยาลัยมหิดลยังให้ความสำคัญกับการสร้างความเข้มแข็งในศาสตร์สาขาอื่นๆ อาทิ ความท้าทายของชุมชน วิทยาศาสตร์สุขภาพ วิศวกรรม เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ธุรกิจ ตลอดจนสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ในขณะเดียวกันมหาวิทยาลัยมหิดลยังส่งเสริมการศึกษาข้ามสาขาวิชาด้านการแพทย์ วิศวกรรมศาสตร์ และเทคโนโลยี เช่น วิศวกรรมชีวการแพทย์ สนเทศศาสตร์ทางสุขภาพ และเทคโนโลยีสร้างสรรค์

เกี่ยวกับกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA)

กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ (TICA) เป็นส่วนราชการสังกัดกระทรวงการต่างประเทศ มีหน้าที่เป็นหน่วยงานตัวแทนรัฐบาลไทยในการบริหารงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนากับต่างประเทศให้เป็นไปตามนโยบายต่างประเทศ และวาระโลก โดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศได้มีบทบาทในการดำเนินงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของไทยกับต่างประเทศ ในสาขาที่ไทยมีความเชี่ยวชาญ เช่น การศึกษา สาธารณสุข การเกษตร และการพัฒนาชนบท ในรูปแบบของการดำเนินงานโครงการเพื่อการพัฒนา การให้ทุนศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตรฝึกอบรม และทุนศึกษาดูงานให้กับประเทศเพื่อนบ้านของไทย ตลอดจนถึงประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ ในเอเชีย แปซิฟิก ตะวันออกกลาง แอฟริกา และละตินอเมริกา กรมความร่วมมือระหว่างประเทศให้ความสำคัญกับความต้องการของประเทศคู่ร่วมมือ เป็นหลัก ความต้องการด้านการพัฒนาของคู่ร่วมมือจะต้องสอดคล้องกับสาขาที่ไทยมีศักยภาพเพื่อให้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ยังร่วมกับแหล่งผู้ให้อื่น ๆ ภายใต้ความร่วมมือไตรภาคี และความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาค ภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างการดำเนินงานโครงการและกิจกรรมความร่วมมือเพื่อการพัฒนา สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง เพื่อให้ผลลัพธ์ของการพัฒนาสามารถตอบสนองต่อวาระโลกได้อย่างยั่งยืน

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์