คำแนะนำด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับการเดินทางร่วมพิธีฮัจญ์ในช่วงโควิด-19 - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Wednesday 6 July 2022

คำแนะนำด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับการเดินทางร่วมพิธีฮัจญ์ในช่วงโควิด-19



คำแนะนำด้านสุขภาพและความปลอดภัยสำหรับการเดินทางร่วมพิธีฮัจญ์ในช่วงโควิด-19

โดยอินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส

กรุงเทพฯ 6 กรกฎาคม 2565 – บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส (International SOS) เป็นผู้นำในการให้บริการความช่วยเหลือด้านการสุขภาพและความมั่นคงปลอดภัยแก่พนักงานขององค์การต่าง ๆ ทั่วโลก ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการเดินทางไปแสวงบุญประกอบพิธีฮัจญ์ ณ เมืองมักกะห์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย (7-12 กรกฎาคมนี้)

ในช่วงการประกอบพิธีฮัจญ์จะมีประชาชนกว่า 1 ล้านคนที่ได้รับอนุญาตเดินทางไปร่วมแสวงบุญ ซึ่งปีนี้นับเป็นครั้งแรกที่ชาวต่างชาติจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าร่วมพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบียนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2562-2563 ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยผู้แสวงบุญทุกคนต้องแสดงหลักฐานสถานะการฉีดวัคซีน และผลการตรวจโควิดแบบ PCR เป็นลบก่อนออกเดินทางสู่ประเทศซาอุดีอาระเบียไม่เกิน 72 ชั่วโมง

นพ. จามร เงินชารี ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส กล่าวว่า "แม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะดูเหมือนว่าผ่อนคลายลงแล้ว แต่ช่วงเวลาตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนมิถุนายน ยังมีผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงในซาอุดิอาระเบีย ดังนั้น ผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนแล้วก็ควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลต่อไป เพื่อป้องกันตนเองให้ดีที่สุดจากการติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ ผู้เดินทางทุกคนยังต้องรักษาระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัย และรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัดด้วยการล้างมือบ่อย ๆ สิ่งสำคัญคือ ต้องปฏิบัติตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุขในซาอุดิอาระเบีย และระมัดระวังโรคอื่น ๆ ที่แพร่หลายในภูมิภาคนี้ รวมถึงโรคเมอร์ส (Middle East Respiratory Syndrome หรือ MERS-CoV) ที่สามารถป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขอนามัย และดูแลสุขภาพเพื่อรับมือกับสภาพแวดล้อม เช่น อากาศที่ร้อนจัด ควรเลือกรับประทานอาหารที่สะอาด ปรุงสุก และเครื่องดื่มที่ปลอดภัย ดื่มน้ำจากน้ำบรรจุขวดและนมพาสเจอร์ไรส์ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอและรักษาอุณหภูมิของร่างกายไม่ให้สูงเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงอาการป่วยที่เกิดจากความร้อน"

สราวุธ ธัมจุล ผู้จัดการด้านความมั่นคงปลอดภัย บริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวเสริมว่า "ผู้แสวงบุญที่ไปร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ควรปฏิบัติตามคำสั่งของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด และตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้รับการอนุมัติอย่างถูกต้องก่อนออกเดินทาง ใช้บริการของผู้จัดงานแสวงบุญที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาล มีความน่าเชื่อถือ และมียานพาหนะที่เหมาะสมให้บริการ ผู้เดินทางมาเยือนซาอุดิอาระเบียที่ไม่ได้เข้าร่วมพิธีฮัจญ์ ควรคำนึงถึงความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมและปฏิบัติตามข้อจำกัดในการเดินทาง รวมถึงการจำกัดการเข้าใช้สนามบินบางแห่ง"

คำแนะนำจาก International SOS สำหรับการร่วมพิธีฮัจญ์ในช่วงโควิด-19:

สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และรักษาระยะห่างอย่างน้อยสองเมตร

การปฏิบัติตามมาตรการสุขอนามัยที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการล้างมือเป็นประจำ และทิ้งหน้ากากและถุงมือที่ใช้แล้วทันทีอย่างปลอดภัย

ปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ ของรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

ดูแลปัญหาด้านสุขภาพให้คงที่ หากจำเป็นต้องใช้ยา ควรเตรียมไปให้เพียงพอสำหรับการเดินทาง และเผื่อไว้ในกรณีที่อาจเกิดความล่าช้า

บันทึกรายชื่อผู้ติดต่อในกรณีฉุกเฉินบนโทรศัพท์มือถือ และชาร์จโทรศัพท์ให้พร้อม (ตำรวจ รถพยาบาล สถานทูต และผู้ติดต่อในพื้นที่)

ติดตามสถานการณ์ ข่าวสาร และคำแนะนำล่าสุดอยู่เสมอ

เพิ่มความระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับความละเอียดอ่อนในด้านศาสนาและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนโซเชียลมีเดีย และเคารพกฎหมาย ศาสนา และวัฒนธรรมท้องถิ่นตลอดการพำนัก

เตรียมพร้อมสำหรับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น ในจุดที่เป็นศูนย์กลางการคมนาคมรวมถึงการจราจรและความแออัดที่เพิ่มขึ้น

หากเข้าร่วมการแสวงบุญ ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้จัดพิธีฮัจญ์ การกำหนดเวลาพิธีฮัจญ์จะมีหลากหลายเวลาตามแต่ผู้จัด ซึ่งจัดโดยทางการของซาอุดิอาระเบียเพื่อลดความแออัด ระหว่างที่ร่วมพิธีให้ระมัดระวังทรัพย์สินอยู่เสมอเมื่อเดินเข้าไปท่ามกลางฝูงชน

ดื่มน้ำให้เพียงพอเพื่อไม่ให้เกิดโรคลมแดดหรือภาวะฉุกเฉินจากความร้อน เลือกรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่ปลอดภัย เช่น น้ำดื่มบรรจุขวด ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด ดูว่าเนื้อสัตว์ปรุงสุกอย่างทั่วถึงและหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อด้วยความร้อนสูง

คอยสังเกตผู้อื่นที่อาจมีอาการป่วย และเน้นย้ำว่าต้องรักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า

หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสัตว์โดยตรงรวมถึงอูฐ เพราะอาจเกิดการเจ็บป่วยที่รุนแรงที่มีสาเหตุมาจากโคโรนาไวรัสสายพันธุ์อื่นหรือโรคเมอร์ส อาจพบได้ในอูฐ

เกี่ยวกับบริษัทกลุ่มบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส

กลุ่มบริษัท อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส เป็นผู้นำในการให้บริการความช่วยเหลือด้านการแพทย์และความมั่นคงปลอดภัยแก่พนักงานขององค์การต่าง ๆ ทั่วโลก ด้วยนวัตกรรมทางด้านเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของบุคลากรทางแพทย์และความมั่นคงปลอดภัยของอินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอส การบริการของบริษัท ฯ ช่วยป้องกันและบริหารความเสี่ยงให้แก่องค์กร ในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศที่เลวร้าย โรคระบาด ภาวะวิกฤตด้านความมั่นคงปลอดภัย เราให้บริการความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีเพื่อให้คุณอุ่นใจและปลอดภัย ซึ่งไม่ว่าจะเป็นภาวะปกติหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน บริการของอินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอส ช่วยให้องค์กรมีความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจและเติบโตต่อไปอย่างยั่งยืน

อินเตอร์เนชั่นแนล เอสโอเอสก่อตั้งในปี 2528 มีสำนักงานใหญ่ในลอนดอนและสิงคโปร์ ปัจจุบันให้บริการแก่ลูกค้าองค์กรทั่วโลกมากกว่า 9,500 บริษัท ได้แก่ หลายบริษัทที่เป็นหนึ่งใน 500 บริษัทขนาดใหญ่ที่สุดของโลก องค์กรขนาดกลาง รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ สถาบันการศึกษาและหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไร บริษัทฯ มีพนักงานมากกว่า 13,000 คนทั่วโลก ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ได้แก่ บุคลากรทางการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งประจำอยู่ที่สำนักงานและไซต์งานมากกว่า 1,000 แห่งใน 90 ประเทศ ที่ยืนเคียงข้างคุณเพื่อให้ความช่วยเหลือทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดทั้งปี

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์