รถแข่งปอร์เช่ 959 S ของ Nick Heidfeld กับการเยี่ยมเยือนแผนก Porsche Classic สู่ pit stop ที่เหนือชั้นที่สุด - Bangkokfocusnews.com : ข่าวประชาสัมพันธ์ออนไลน์

Latest News 📢

Saturday 9 July 2022

รถแข่งปอร์เช่ 959 S ของ Nick Heidfeld กับการเยี่ยมเยือนแผนก Porsche Classic สู่ pit stop ที่เหนือชั้นที่สุด



รถแข่งปอร์เช่ 959 S ของ Nick Heidfeld กับการเยี่ยมเยือนแผนก Porsche Classic สู่ pit stop ที่เหนือชั้นที่สุด

การถือกำเนิดใหม่ของรถสปอร์ตสุดคลาสสิค ด้วยผีมือของโรงงานปอร์เช่

สตุ๊ทการ์ท. ไม่ว่าจะในเชิงของพละกำลังอันสูงสุด อัตราเร่งที่ว่องไว ความเร็วแรงสูงสุดทะลุพิกัด แน่นอนว่าเป็นภาพจำในใจของบรรดาผู้หลงใหลในยนตกรรมสปอร์ตยุคทศวรรษ 1980 และ 1990 จะต้องมีรถสปอร์ตปอร์เช่ 959 ในฐานะตัวละครลับสุดยอดที่ถือเป็นไพ่ตายในขณะนั้น รถซุปเปอร์สปอร์ตที่ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 315 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีจำนวนเพียง 292 คันที่ปอร์เช่ผลิตขึ้น โดยที่อดีตนักแข่งรถอย่าง Nick Heidfeld คือหนึ่งในผู้ครอบครองรถสปอร์ตเวอร์ชั่นพิเศษสุดหายากคันนี้ถูกสร้างขึ้นเพียง 29 คันเท่านั้น สำหรับ ปอร์เช่ 959 S เวอร์ชั่นนี้ให้พละกำลังมากยิ่งขึ้น ด้วยแรงม้ากว่า 515 ตัว มาพร้อมความเร็วสูงสุดแตะระดับได้ถึง 339 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และไอเทมที่นักสะสมต่างค้นหาคันนี้ มีความพิเศษมากมาย ทั้งเลขไมล์ที่วิ่งไปน้อยมากซึ่งผ่านการใช้งานไปเพียง 4,183 กิโลเมตร สังเกตได้จากตัวเลขบนแผงหน้าปัทม์ในวันที่เขานำเอารถสปอร์ตคันดังกล่าวมายังแผนก Porsche Classic เมื่อช่วงฤดูร้อนปี 2017

Uwe Makrutzki หัวหน้าส่วนงาน Factory Restoration ของแผนก Porsche Classic กล่าวว่า แม้ว่ารถปอร์เช่ 959 คันนี้จะแทบไม่มีอะไรบุบสลาย แต่ยังคงจำเป็นต้องได้รับการโอเวอร์ฮอล (Overhaul) หรือการฟื้นฟูสภาพทางเทคนิคในหลายส่วน หากพิจารณาในแง่มุมของนวัตกรรมเทคโนโลยี รถคันนี้ไม่ธรรมดาเลย และแน่นอนว่าความเสียหายอันเกิดจากการจอดอยู่กับที่ คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในเบื้องต้นระบบขับเคลื่อน และช่วงล่าง ต้องได้รับการโอเวอร์ฮอล (Overhaul) จากประสบการณ์แสดงให้เห็นว่าทุกงานบำรุงรักษาที่ถูกลดทอนลง จะนำมาซึ่งปัญหาเมื่อนำรถไปขับขี่บนท้องถนน”

เช่นเดียวกันกับเจ้าของรถยนต์ปอร์เช่คลาสสิคทุกคน รถสปอร์ต 959 คันนี้ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลโดยผู้เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ และได้รับการซ่อมบำรุงด้วยเครื่องมืออุปกรณ์ที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานของผู้ผลิต ในทันทีที่รถซุปเปอร์สปอร์ตเสร็จสิ้นจากขั้นตอนการปรับปรุงสภาพ ทางแผนก Porsche Classic จะเชิญเจ้าของรถเข้ามาเยี่ยมชมกระบวนการขับทดสอบ รวมทั้งตรวจเช็คอุปกรณ์ที่ใช้ในการบำรุงรักษาทุกชิ้น ในทุกส่วนงานที่เกี่ยวข้อง นี่คือสิ่งที่เติมเต็มประสบการณ์อันยอดเยี่ยมให้แก่การตัดสินใจส่งมอบรถสปอร์ตสุดรักเข้ามาให้ปอร์เช่ดูแล รถสปอร์ตปอร์เช่ 959 เกือบทุกคัน ล้วนเคยผ่านการดูแลของเรามาอย่างน้อยหนึ่งครั้งตลอดอายุการใช้งานดังนั้นเราจึงมีความชำนาญอย่างยิ่ง ต้องขอบคุณเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่อย่างไรก็ตาม โอเวอร์ฮอล (Overhaul)รถสปอร์ตปอร์เช่ 959 คือความพิเศษสุดยอด และเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่มาโดยตลอด

จากการวิเคราะห์พบว่า ในกรณีรถสปอร์ตปอร์เช่ 959 S ของ Heidfeld ระบบควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์ผ่านการปรับแต่งมาแล้ว แต่ภายหลังจากปรึกษาหารือกับเจ้าของรถ เจ้าหน้าที่ของแผนก Porsche Classic ได้ดำเนินการเปลี่ยนชุดควบคุม Motronic unit ของตัวรถให้กลับสู่สภาพเดิม

Heidfeld อดีตนักแข่งรถ Formula One กล่าวว่า ผมได้นำเอารถปอร์เช่ 959 S ออกวิ่งบนท้องถนนอีกครั้งในเดือนธันวาคม ปี 2021 ผมมีโอกาสดีที่ได้ขับรถสมรรถนะสูงอยู่หลายคัน แต่การได้ขับรถระดับตำนานสุด high-tech คันนี้เป็นบางอย่างที่พิเศษเอามาก ๆ สำหรับผม เมื่อสมัยวัยรุ่นผมเคยเป็นแฟนตัวยงมาตั้งแต่ช่วงปลายยุค 1980 สำหรับผมปอร์เช่คันนี้คือรถที่เป็นได้มากกว่า คำว่าเหนือชั้นมาโดยตลอด ในตอนนั้นปอร์เช่ 959 คือรถยนต์จากสายการผลิตปกติที่เร็วที่สุดในโลก และมีนวัตกรรมล้ำยุคที่สุดเท่าที่เคยมีมา แม้กระทั่งทุกวันนี้ มันไม่ได้รู้สึกเหมือนขับรถเก่าอายุ 30 ปี แต่กลับรู้สึกว่ามันใกล้เคียงกับรถยนต์ยุคใหม่เอามาก ๆ”

เพื่อให้มั่นใจว่าการซ่อมบำรุงรักษาอันยาวนานครั้งนี้ประสบความสำเร็จ Makrutzki แนะนำวิธีการขับขี่ที่ควรทำเพิ่มเติมว่า “การใช้งานเป็นระยะทางประมาณ 100 กิโลเมตร ผสมผสานกับการตรวจสอบอย่างน้อยหนึ่งครั้งต่อเดือน คือสิ่งที่เรานำเสนอให้ปฏิบัติ เพื่อป้องกันความเสียหายจากการจอดนิ่งอยู่กับที่ นั่นรวมถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่เราได้รับจากลูกค้าอีกด้วย”

ถึงตอนนี้ รถสปอร์ตปอร์เช่ 959 S ได้ผ่านการปรับปรุงสภาพกลับสู่มาตรฐานดั้งเดิมเมื่อปี 1987

ปอร์เช่ 959 S

ยาว/กว้าง/สูง:

มิลลิเมตร

4,260/1,840/1,240

ระยะฐานล้อ

มิลลิเมตร

2,272

น้ำหนักรถ (DIN):

กิโลกรัม

1,350

เครื่องยนต์

จำนวนกระบอกสูบ

 /การจัดวางกระบอกสูบ

หกสูบนอน บ๊อกเซอร์ (boxer)

ระบบเกียร์/ระบบขับเคลื่อน

 

จังหวะ/ขับเคลื่อน ล้อ all-wheel drive

ความจุกระบอกสูบ

cm³

2,848 ซีซี

แรงม้าสูงสุด

กิโลวัตต์/PS ที่ รอบการทำงาน

379/515 ที่ 6,900 รอบต่อนาที

แรงบิดสูงสุด

นิวตันเมตร ที่ รอบการทำงาน

561 ที่ 6,500 รอบต่อนาที

อัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง:

วินาที

3.7

ความเร็วสูงสุด

กิโลเมตรต่อชั่วโมง

339

ราคาจำหน่าย (ปี 1987)

มาร์คเยอรมัน (DM)

420,000



เกี่ยวกับรถสปอร์ตปอร์เช่ 959

สำหรับเหล่าผู้คร่ำหวอดด้านรถสปอร์ต รถยนต์ ปอร์เช่ 959 คือหนึ่งในรถสปอร์ตที่น่าหลงใหลที่สุดในช่วงปลายศตรวรรษที่ผ่านมา ในปี 1983 โดยปอร์เช่ได้นำเสนอรถต้นแบบ ‘Group B’ ที่ได้รับการดีไซน์ตามกฎข้อบังคับของรถแข่งแรลลี่สายพันธ์แท้ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ IAA หลังจากนั้นในปี 1986 ในการแข่งขันแรลลี่ Paris Dakar ปอร์เช่ 959 สามารถจบการแข่งขันได้ทั้ง 3 คัน โดยคว้าอันดับ 1 อันดับ 2 และอันดับ 6 มาครอง ในส่วนของรถรุ่นพิเศษที่ผ่านการปรับแต่งปอร์เช่ 961 track version นั้น สามารถจบการแข่งขันอันดับ 7 ในรายการระยะยาวสุดคลาสสิคที่ Le Mans ปี 1986 รวมทั้งคว้าแชมป์รุ่น GTX จากการแข่งขัน IMSA

รถจากสายการผลิตปกติ ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกของโลกในงานมหกรรมยานยนต์ IAA เมื่อปี 1985 นวัตกรรมมากมายในตัวรถ ประกอบด้วย โช้คอัพปรับระดับได้ พร้อมระบบ speed-sensitive ระบบช่วงล่างปรับระดับอัตโนมัติ self-levelling ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ all-wheel drive ควบคุมด้วยอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมโหมดการขับขี่ driving programme selection และระบบเบรก ABS ระบบตรวจสอบแรงดันลมยาง tyre pressure monitoring และตัวถังที่ออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์อย่างเต็มพิกัด (สัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ Cd 0.31) ผสานเทคโนโลยีจากรถแข่ง และอากาศยาน ตัวถังภายนอกผลิตจากวัสดุ Kevlar และ glass-fibre-reinforced epoxy resin ในลักษณะ hybrid construction ขณะที่สปอยเลอร์หน้าผลิตจากวัสดุ polyurethane integral foam บานประตู และฝากระโปรงหน้าผลิตจากวัสดุ aluminium alloy แบบพิเศษ

ปอร์เช่ 959 คือรถยนต์จากสายการผลิตปกติคันแรกของโลกที่ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์บ๊อกเซอร์ (Boxer) เทอร์โบคู่ แบบ sequential turbocharging ซึ่งเทอร์โบทั้ง 2 ตัวทำงานตามลำดับเพื่อช่วยลดอาการ turbo lag ก้านสูบTitanium ลดการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นกับเพลาข้อเหวี่ยง ระบายความร้อนกระบอกสูบด้วยอากาศตามระบบของรถยนต์ปอร์เช่ในขณะนั้น แต่ฝาสูบแบบ 4 วาล์วต่อสูบใช้ระบบระบายความร้อนด้วยน้ำเพื่อการลดอุณหภูมิที่ดีกว่า พร้อมวาล์วไอเสียแบบ sodium filling ปอร์เช่ 959 ผลิตออกมาจากโรงงานเพียง 292 คัน ตั้งแต่ปี 1987 ถึงปี 1988

เวอร์ชั่นสปอร์ตยิ่งทวีความหายากมากขึ้นไปอีก มีเพียง 29 คันที่จำหน่ายออกไป รุ่นพิเศษนี้มีระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จที่ใหญ่ขึ้น พร้อมกำลังอัดที่สูงขึ้น ให้แรงม้าสูงสุดถึง 515 แรงม้า ขณะที่รุ่นมาตรฐานมีกำลัง 450 แรงม้า ปอร์เช่ 959 S ไม่มีระบบช่วงล่างปรับระดับอัตโนมัติ self-levelling ไม่มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ไม่มีระบบเซ็นทรัลล็อค ไม่มีกระจกไฟฟ้า นอกจากนี้กระจกมองข้างด้านขวา และเบาะคู่หลังถูกตัดออกด้วยเหตุผลเพื่อการลดน้ำหนักให้เบาลง

เกี่ยวกับ Nick Heidfeld

ด้วยสถิติเข้าร่วมการแข่งขัน Formula One ถึง 183 สนาม Nick Heidfeld คือหนึ่งในนักแข่งรถสัญชาติเยอรมนีที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมากที่สุด ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี นักแข่งจากเมือง Mönchengladbach ควบรถแข่ง Formula One ให้แก่ยอดทีมระดับโลกมากมาย รวมทั้งทีม BMW ทีม Lotus-Renault, ทีม Sauber และทีม Williams ชื่อเล่นของเขาคือ ‘Quick Nick’ ทำผลงานจบการแข่งขันบนโพเดี้ยมได้ถึง 13 ครั้ง คว้าอันดับ 5 ในตารางคะแนนสะสม Formula One ในฤดูกาล 2007 เกียรติยศสุดยิ่งใหญ่ของเขาเกิดขึ้นในปี 2014 เมื่อสามารถคว้าแชมป์ในรุ่น และได้อันดับที่ 4 overall จากการแข่งขันรายการ Le Mans 24 ชั่วโมง และในปีเดียวกัน เขายังได้รับเชิญเป็นนักแข่ง guest driver ในการแข่งขัน Porsche Mobil 1 Supercup จากนั้นในปี 2014 และปี 2018 นั้น Nick Heidfeld ได้เข้าร่วมการแข่งขันในรายการ Formula E

สำหรับหนุ่มใหญ่อายุ 45 ปีมีสถานะแต่งงานแล้ว และเป็นคุณพ่อของลูก ๆ ถึง 3 คน ซึ่งใช้ชีวิตอยู่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และเค้าได้มีรายได้จากการแข่งขัน Formula One ครั้งแรกนั้น Heidfeld ได้นำมาซื้อรถสปอร์ตปอร์เช่ 911 GT2 (ตัวถัง 996) ทำให้ปัจจุบันในโรงรถของสาวกรถสปอร์ตคลาสสิครายนี้ มีทั้ง Ford Mustang Fastback ปี 1965, รถ Volkswagen Beetle convertible และปอร์เช่ Carrera GT จอดอยู่ด้วยกัน ยังไม่นับรวมปอร์เช่ 959 S ที่เพิ่งได้รับการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่โดยแผนก Porsche Classic อีกหนึ่งคัน


เกี่ยวกับ AAS Group

ปอร์เช่ ประเทศไทย โดย เอเอเอส กรุ๊ป ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่และเบนท์ลีย์อย่างเป็นทางการ ได้สร้างความเชื่อมั่นในด้านการดูแลหลังการขายให้กับลูกค้าปอร์เช่ทุกท่าน ด้วยทีมวิศวกรที่ผ่านการ ทดสอบระดับเหรียญ ทอง (ZPT3 Gold Theory Test & Recertification) ถึง 12 คน ซึ่งถือว่ามี จำนวนมากที่สุดของศูนย์รถยนต์ปอร์เช่ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคทั้งหมด 13 ประเทศ สะท้อนให้เห็นถึง ความสำคัญ ในเรื่องการให้บริการหลังการขาย โดย เอเอเอส ทุ่มงบการอบรมวิศวกร ของเราให้มีคุณภาพสูงสุด ตามนโยบาย หลักของบริษัทที่ว่า “เอเอเอส ดูแลทั้งรถและคุณ AAS Looking after YOU and your CAR” เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า “AAS The Name you can Trust” ซึ่งพิสูจน์ ให้ท่านได้เห็นแล้วตลอดระยะเวลาดำเนินงานมากกว่า 30 ปี

No comments:

Post a Comment

Post Bottom Ad


Bangkokfocusnews.com ข่าวออนไลน์