กกท. (SAT) คลอดโพลล์ซีเกมส์ ทัพไทยคว้าเหรียญรวม 112 ทอง ลุ้นทำ 72 ทอง ครองเจ้ากีฬาสากล
5 พฤษภาคม 2565 – ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ประเมินทัพนักกีฬาไทยน่าจะทำได้ 112 เหรียญทอง ในตารางเหรียญรวม คว้าอันดับ 2 ในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม แต่จะครองเจ้าเหรียญทองกีฬาสากล ด้วยการทำได้ 72 เหรียญทอง
คณะกรรมการเตรียมนักกีฬาไทย โดยฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ทำการประเมินโอกาสการคว้าเหรียญทองของทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ในวันที่ 12-23 พฤษภาคม 2565
สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 เวียดนามบรรจุชนิดกีฬาชิงชัยทั้งสิ้น 40 ชนิด ประกอบด้วย กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ,กระโดดน้ำ,ฟินสวิมมิ่ง), ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล, บิลเลียด, เพาะกาย, โบว์ลิ่ง, มวยสากล, เรือแคนู, หมากรุกสากล, จักรยาน, แดนซ์สปอร์ต, อีสปอร์ต, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, แฮนด์บอล, ยูโด, ยูยิตสู, คาราเต้, คิกบ็อกซิ่ง, คูราช, มวยไทย, ปันจักสีลัต, เปตอง, เรือพาย, ตะกร้อ, ยิงปืน, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล, โววีนั่ม, ยกน้ำหนัก, มวยปล้ำ, วูซู, หมากรุกเซี่ยงฉี ชิงชัย 527 เหรียญทอง
ประเทศไทย ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน 819 คน เป็นอันดับ 2 รองจากเวียดนาม 965 คน ตามด้วย ฟิลิปปินส์ 656 คน, มาเลเซีย 612 คน, กัมพูชา 550 คน, อินโดนีเซีย 476 คน, ลาว 363 คน, เมียนมาร์ 352 คน, สิงคโปร์ 330 คน, ติมอร์เลสเต 69 คน และ บรูไน 24 คน รวมทั้งสิ้น 5,216 คน
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ประกาศว่าทัพนักกีฬาไทยจะต้องทำผลงานได้ดีกว่ากีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ฟิลิปปินส์ ในปี พ.ศ.2562 ซึ่งไทยทำได้ 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 123 เหรียญทองแดง ได้อันดับ 3 เป็นรอง ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ที่ได้อันดับ 1 และ 2 ตามลำดับ และไทยต้องครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ในกีฬาสากลด้วย
สำหรับกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ ได้แบ่งชนิดกีฬาสากลและกีฬาทั่วไปออกจากกัน เพื่อทำการประเมินผลงานนักกีฬาไทย โดยกีฬาสากล 22 ชนิดได้แก่ ว่ายน้ำ (กระโดดน้ำ), ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล, มวยสากล, จักรยาน, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยกน้ำหนัก, วอลเลย์บอล, ยิมนาสติก (สากล,ลีลา,แอโรบิค), ยูโด, เรือพาย (เรือกรรเชียง),เรือพาย (แคนู-คยัค), มวยปล้ำ, ยิงปืน (ยิงเป้าบิน), เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส และไตรกีฬา มีการชิงชัยรวม 350 เหรียญทอง ส่วนกีฬาทั่วไปมีการชิงชัยทั้งสิ้น 177 เหรียญทอง
ทั้งนี้ จากทั้งหมด 527 เหรียญทองที่มีการชิงชัย ประเทศไทยมีนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขัน 482 รายการ (กีฬาสากล 327 รายการ และกีฬาทั่วไป 155 รายการ) โดยฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศประเมินว่า กีฬาสากลไทยมีโอกาสทำได้ 72 เหรียญทอง และครองตำแหน่งเจ้าหรียญทองกีฬาสากลได้สำเร็จ ในขณะที่ตารางเหรียญทองรวม ได้ประเมินว่า ไทยจะทำได้ 112 เหรียญทอง ได้อันดับ 2
อนึ่ง ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เจ้าภาพทำได้ 149 เหรียญทองในตารางเหรียญรวม ตามด้วยเวียดนาม 98 เหรียญทอง และไทย 92 เหรียญทอง ได้อันดับ 3 ส่วนในกีฬาสากล ทัพนักกีฬาไทยทำได้ 64 เหรียญทอง เป็นรองเวียดนามที่ทำได้ 70 เหรียญทอง และ ฟิลิปปินส์ ทำได้ 69 เหรียญทอง
ข้อมูลเกี่ยวกับคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เป็นหนึ่งในจำนวน 205 ประเทศ ที่คณะกรรมการโอลิมปิคระหว่างประเทศ (IOC) ให้การรับรองอย่างเป็นทางการ และเป็นหนึ่งในจำนวน 45 ประเทศที่สภาโอลิมปิคแห่งเอเชียให้การรับรอง เป็นองค์กรตัวแทนเดียวของประเทศ ที่มีหน้าที่คัดเลือกและส่งนักกีฬาระดับชาติเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ เช่น กีฬาโอลิมปิกเกมส์ ฤดูร้อน และฤดูหนาว, กีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ฤดูร้อน และฤดูหนาว, กีฬาเอเชี่ยนอินดอร์และมาเชี่ยลอาร์ทเกมส์, กีฬาเอเชี่ยนบีชเกมส์, กีฬาเอเชี่ยนยูธเกมส์ ฤดูร้อน และฤดูหนาว และกีฬาซีเกมส์ หรือการแข่งขันกีฬาใด ๆ ที่อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของคณะกรรมการโอลิมปิคระหว่างประเทศ
ข้อมูลเกี่ยวกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) Sports Authority of Thailand เรียกโดยย่อว่า SAT มีพันธกิจ และวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อการส่งเสริมกีฬา ทําหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการประสานงานเกี่ยวกับการกีฬา ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และจัดทําโครงการ แผนงาน และสถิติเกี่ยวกับการส่งเสริมการกีฬารวมทั้งประเมินผล, ช่วยเหลือแนะนํา และร่วมมือในการจัดและดําเนินกิจกรรมกีฬา, สํารวจ จัดสร้าง และบูรณะสถานที่สําหรับการกีฬา,ติดต่อร่วมมือกับองค์การหรือสมาคมกีฬาทั้งในและนอกราชอาณาจักร,สอดส่องและกํากับดูแลการดําเนินกิจกรรมกีฬา, ริเริ่ม พัฒนา ส่งเสริม และสนับสนุนการกีฬาคนพิการ, ประกอบกิจการอื่นๆ อันเกี่ยวแก่หรือเพื่อประโยชน์ของการกีฬา
ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ จัดตั้งตามพระราชบัญญัติ การกีฬาแห่งประเทศไทย ปี พ.ศ.2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อเตรียมนักกีฬาไปแข่งขันในระดับชาติ หรือนานาชาติ, พัฒนานักกีฬาบุคลากรกีฬาและสมาคมกีฬา, ส่งเสริมและสนันสนุนการทำกิจกรรมกีฬาในระดับชาติและนานาชาติ, สนับสนุนเงินรางวัลแก่นักกีฬา,ให้ทุนการศึกษานักกีฬาและบุคลากรกีฬา, ช่วยเหลือด้านสวัสดิการ แก่นักกีฬาและบุคลากรกีฬา
No comments:
Post a Comment