ติดสปีด “สปา-นวดไทย” ด้วยบันได 5 ขั้น สู่ ธุรกิจบริการเพื่อสุขภาพเกรดพรี เมียมระดับสากล
กรุงเทพฯ 2 เมษายน 2562 – สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิ จขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้ างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จัดกิจกรรมยกระดับและเพิ่มมูลค่ าอุตสาหกรรมสปาไทย ภายใต้ โครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิ จระดับเติบโต (SME Regular Level) ปี2562 เพื่อติดสปีดผู้ ประกอบการสปาไทย ด้ วยกระบวนการคิดสร้างสรรค์ สร้างจุดขายให้แบรนด์และเพิ่มมู ลค่าธุรกิจ ด้วยกิจกรรมหลักเสริมแกร่งผู้ ประกอบการสปาและนวดไทยแบบครบวงจ ร ได้แก่ การจัดอบรมสัมมนาเทรนด์ธุรกิ จสปา การจัดอบรมเพื่อสร้างจุดขายที่ แตกต่าง การให้คำปรึกษาเชิงลึก โดยผู้ เชี่ยวชาญด้านธุรกิจ ด้านมาตรฐาน การพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ และบริการ และการออกงานแสดงสินค้าในต่ างประเทศ เพื่อเพิ่มขี ดความสามารถในการแข่งขันธุรกิ จสปาไทยในระดับนานาชาติ และก้าวสู่บริการทางเลือกเพื่ อสุขภาพเกรดพรีเมียมอย่างยั่งยื น โดยในปี 2561 ที่ผ่านมา แต่ละปีอุ ตสาหกรรมสปาในไทยสามารถสร้างมู ลค่าทางเศรษฐกิจมากกว่า35,000 ล้านบาท
มีอัตราการเติบโตประมาณ 8% ต่อปี ทั้งนี้ สสว. และ ซีอีเอ ได้จัดพิธีเปิดกิจกรรม “Creative Spa & Wellness Thailand Seminar พลิกแนวคิด สร้างจุดขาย สู่สปาสร้างสรรค์” เมื่อเร็วๆ นี้ ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร (BACC)
มีอัตราการเติบโตประมาณ 8% ต่อปี ทั้งนี้ สสว. และ ซีอีเอ ได้จัดพิธีเปิดกิจกรรม “Creative Spa & Wellness Thailand Seminar พลิกแนวคิด สร้างจุดขาย สู่สปาสร้างสรรค์” เมื่อเร็วๆ นี้ ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร (BACC)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้ างสรรค์ (องค์การมหาชน) กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 02-105-7441 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.facebook.com/creative. spa.thailand
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิ สาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า จากกระแสรักสุขภาพของผู้บริ โภคทั้งในและต่างประเทศ เป็นผลให้มีธุรกิจที่เกี่ยวข้ องกับสุขภาพในประเทศไทยมีอั ตราการเติบโต สูงกว่าอัตราเฉลี่ยทั่วโลกอย่ างน่าสนใจ โดยเฉพาะ “ธุรกิจสปา” ธุรกิจเพื่อสุขภาพและความงาม ที่ยังคงได้รับความนิยมจากนักท่ องเที่ยวชาวไทยและต่ างประเทศในปัจจุบัน เนื่องจากจุดแข็งด้านการให้บริ การ และสมุนไพร ซึ่งเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ ดังนั้น ธุรกิจสปาและนวดไทย จึงถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ มีความสำคัญและขับเคลื่ อนเศรษฐกิจประเทศ อีกทั้งยังสร้างอาชีพให้กับบุ คคลทั่วไปได้มีรายได้ และในขณะเดียวกัน ยังก่อให้เกิดรายได้แก่อุ ตสาหกรรมอื่นที่เชื่ อมโยงในกระบวนการสปา นับตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำอย่าง อุตสาหกรรมเกษตรและการท่องเที่ ยวเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม แม้จำนวนธุรกิ จสปาในประเทศไทยจะเติบโตอย่างต่ อเนื่อง แต่ภาพลักษณ์ธุรกิจสี เทาในบางสถานประกอบการ ยังเป็นอุปสรรคต่อการสร้างจุ ดขายให้กับสปาแบรนด์ไทย ดังนั้น การจัดกิจกรรมยกระดับและเพิ่มมู ลค่าอุตสาหกรรมสปาไทย ภายใต้โครงการส่งเสริมและพั ฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) ปี 2562 จึงมีส่วนสำคัญในการช่วยยกระดั บและผลักดันศักยภาพของธุรกิ จสปาและนวดไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล ผ่านผสานความร่วมมือกับเครือข่ ายพันธมิตร ถ่ายทอดองค์ความรู้ในมิติต่างๆ ทั้งการ ‘พลิกแนวคิด’ ธุรกิจสปาไทยให้เป็นทางเลือกเพื่ อสุขภาพของคนไทยและนักท่องเที่ ยว รวมไปถึงก้าวพ้นจากภาพลักษณ์ ของธุรกิจสีเทา พร้อม ‘สร้างจุดขาย’ โดยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริ การบนพื้นฐาน
ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยเติ บโตและแข่งขันได้ในระดับสากล อันจะเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ ผลักดันให้ประเทศไทยก้าวพ้นกั บดักรายได้ปานกลางได้อย่างเป็ นรูปธรรม นายสุวรรณชัย กล่าว
ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อผลักดันให้เอสเอ็มอีไทยเติ
นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริ มเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) กล่าวว่า จากการเล็งเห็นถึ งโอกาสในการยกระดับและเพิ่มมู ลค่าอุตสาหกรรมสปาไทย บนพื้นฐานของการได้เปรียบด้านวั ฒนธรรม วัตถุดิบทางการเกษตร ชื่อเสียงด้านบริการและการท่ องเที่ยว สู่การยกระดับอุ ตสาหกรรมสปาไทยให้สามารถแข่งขั นได้ในระดับโลก สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่ องเที่ยวเชิงสุขภาพของรัฐบาล ที่มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยก้ าวสู่การเป็นศูนย์กลางด้านสปา เวลเนส และนวดไทยระดับโลก สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้ างสรรค์ (องค์การมหาชน) จึงได้ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิ จขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ดำเนินกิจกรรม “ยกระดับและเพิ่มมูลค่าอุ ตสาหกรรมสปาไทย”(Creative Spa & Wellness Thailand) ภายใต้โครงการส่งเสริมและพั ฒนาธุรกิจระดับเติบโต (SME Regular Level) ปี2562 เพื่อเป็นการยกระดับศักยภาพผู้ ประกอบการอุตสาหกรรมสปาไทย ด้วยกระบวนการคิดสร้างสรรค์ สร้างจุดขายให้แบรนด์และเพิ่มมู ลค่าธุรกิจ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า โครงการดังกล่าว ได้ดำเนินงานภายใต้เครื่องมื อเสริมแกร่งให้ผู้ ประกอบการสปาและนวดไทยแบบครบวงจ ร ผ่าน 5 กิจกรรมหลัก ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
· การจัดอบรมสัมมนาเทรนด์ธุรกิ จสปา เพื่อกระตุ้นแนวทางการสร้างจุ ดขายใหม่ของผลิตภัณฑ์หรือบริการ สปา เวลเนส และนวดไทย แนวโน้มการตลาดสปา (Spa Market & Trends) การออกแบบและการเพิ่มมูลค่า (Design & Value Creation) การสร้างแบรนด์และการตลาด (Creative Spa Branding & Digital Marketing)
· การอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้ างจุดขายที่แตกต่าง สำหรับกลุ่มธุรกิจบริการ และกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างไอเดียและปรับกลยุทธ์ ในการสร้างจุดขายที่แตกต่าง ผ่านการออกแบบบริการ(Service Design) การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product Development)
· การให้คำปรึกษาเชิงลึกโดยผู้เชี่ ยวชาญ ด้วยการลงพื้นที่เยี่ยมธุรกิ จอย่างใกล้ชิด เพื่อแนะนำการเพิ่มประสิทธิ ภาพการผลิต พร้อมทั้งสร้างมูลค่าเพิ่มให้กั บสินค้าหรือบริการ
· การพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ และบริการให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสร้ างมูลค่าเพิ่ม
· การออกงานแสดงสินค้าในต่ างประเทศ การนำผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของผู้ ประกอบการมาต่อยอดทางธุรกิจด้ วยช่ องทางการขายและทดสอบตลาดในต่ างประเทศ
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าว กำลังเปิดรับสมัครผู้ ประกอบการสปาและนวดไทยจากทั่ วประเทศเพื่อพัฒนาศั กยภาพในการดำเนินธุรกิจด้ วยความคิดสร้างสรรค์อย่างเข้มข้ น โดยกิจกรรมจะเกิดขึ้นภายในเดื อนเมษายน - สิงหาคม 2562 ด้วยการอบรมเชิงปฏิบัติการ การให้คำปรึกษาเชิงลึก พัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริ การ และคัดเลือก 15 ผู้ประกอบการ เพื่อทดสอบตลาดในต่างประเทศเป็ นลำดับต่อไป นายอภิสิทธิ์กล่าว
กิจกรรม “ยกระดับและเพิ่มมูลค่าอุ ตสาหกรรมสปาไทย” โครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิ จระดับเติบโต (SME Regular Level) ปี 2562 ถือเป็นการสร้างจุดเปลี่ยนครั้ งใหญ่ ในการยกระดับธุรกิจสปาไทยให้เป็ นหนึ่งในบริการทางเลือกเพื่อสุ ขภาพที่น่าเชื่อถือ ได้รับการรับรองคุ ณภาพและมาตรฐานบริ การของคนไทยและนักท่องเที่ยวต่ างชาติ บนพื้นฐานของผู้ประกอบการที่มี ทักษะในการสร้างจุดขายธุรกิจ พัฒนาแบรนด์ให้มีเอกลักษณ์ที่ โดดเด่น พร้อมด้วยบุคลากรภาคบริการและสิ่ งอำนวยความสะดวกในการให้บริ การที่ครบครัน เพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ ใหม่แก่ผู้ใช้บริการได้อย่างมี ประสิทธิภาพนอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มขี ดความสามารถในการแข่งขันธุรกิ จสปาไทยในระดับนานาชาติ อันเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิ จภาพรวมของประเทศไทยให้เติ บโตและก้าวไปข้างหน้าได้อย่ างเข้มแข็งและยั่งยืน นายอภิสิทธิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ปัจจุบัน อุตสาหกรรมสปาของไทยในภาพรวม ติดอันดับที่ 16 ของโลก และเป็นอันดับที่ 5 ของเอเชีย จากการประมาณการโดย Global Wellness Institute (GWI) และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่ อเนื่อง ทั้งนี้ สํานักงานส่งเสริมวิสาหกิ จขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้ างสรรค์ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรม “Creative Spa & Wellness Thailand Seminar พลิกแนวคิด สร้างจุดขาย สู่สปาสร้างสรรค์” พร้อมเปิดเวทีเสวนา “ผ่ากลยุทธ์...สู่อนาคต ธุรกิจส่งเสริมบริการสุขภาพ” เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยแข่งขั นได้ระดับโลก โดยผู้เชี่ยวชาญจากอุ ตสาหกรรมสปาไทย ขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร (BACC) เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
No comments:
Post a Comment