เจดี เซ็นทรัล ร่วม JD.com จับมือรัฐบาลไทย
เพิ่มขีดพั ฒนาความสามารถของคนไทย
เล็งสร้างงาน สร้างอาชีพ อย่างยั่งยืน ดัน SME ไทยสู่ตลาดโลก
· เจดี เซ็นทรัล บริษัทอีคอมเมิร์ซที่เกิ ดจากความร่วมมือของสองยักษ์ใหญ่ ด้านธุรกิจค้าปลีกอย่างเจดี ดอทคอม (JD.com) และบริษัทเซ็นทรัลกรุ๊ป จำกัด ร่วมมือJD.com ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 3ฉบับ กับ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สังกัดกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทั ล (depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิ จและสังคม และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC)
· บันทึกข้อตกลงความร่วมมือทั้ง 3 ฉบับ ว่าด้วยเรื่อง การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่ งขันของ SMEs ไทย ผลักดันสินค้าไทยอวดสายตาชาวโลก พร้อมนำเสนอไอทีโซลูชั่นส์สำหรั บพัฒนาระบบโลจิสติกส์และระบบห่ วงโซ่อุปทาน และส่งเสริมพัฒนาทักษะด้านดิจิ ทัลอีคอมเมิร์ซสำหรับนักศึ กษาไทยอย่างยั่งยืน แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่ นของยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ ซในประเทศไทยด้วยการส่งเสริมศั กยภาพทางการแข่งขั นของไทยในตลาดโลก
· ปัจจุบัน เจดี เซ็นทรัล ได้ส่งสินค้าคุ ณภาพจากประเทศไทยไปขายบน JD Thailand Flagship Storeร้านจำหน่ายสินค้าไทยคุณภาพที่ เป็นที่นิยมที่สุดบนเว็บไซต์ JD.com
กรุงเทพฯ 17 ธันวาคม 2561 – ในวันนี้ นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานคณะกรรมการบริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธี ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 3 ฉบับ ระหว่าง เจดีเซ็นทรัล ร่วมกับ JD.com และ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สังกัดกระทรวงพาณิชย์ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทั ล (depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิ จและสังคม และมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) การลงนามความร่วมมือด้านยุ ทธศาสตร์ระหว่าง บริษัท อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ภาครัฐและมหาวิทยาลัย แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุ นนโยบายในประเทศไทยและนโยบายของ ไทยในการเป็นศูนย์กลางอีคอมเมิ ร์ซที่สำคัญสำหรับอาเซี ยนในอนาคตอันใกล้นี้
ความร่วมมือดังกล่าวเกิดขึ้นหลั งจากการเปิดตัว เจดี เซ็นทรัล อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนกั นยายนที่ผ่านมา และ ยังเป็นก้าวสำคัญของบริษั ทในการสนับสนุนการพั ฒนาเทคโนโลยีและความก้าวหน้ าทางเศรษฐกิจของไทย บันทึกข้อตกลงดังกล่าวยังเป็นอี กหนึ่งความมุ่งมั่นของ เจดี เซ็นทรัล และ JD.com ในการสร้างความสัมพันธ์ และความร่วมมือระยะยาว ซึ่งจะช่วยวางรากฐานของโครงสร้ างพื้นฐานต่างๆ ทั้งในด้านอีคอมเมิร์ซ ด้านการขนส่ง และด้านการศึกษา ซึ่งไม่เพียงช่วยขับเคลื่ อนประเทศไทยสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ ยุคดิจิทัล และเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิ จไทยในตลาดโลก แต่ยังช่วยสนับสนุนการเรียนรู้ ของนักเรียนไทยเพื่อให้เกิ ดความรู้ทางด้านดิจิทัลในระดั บมืออาชีพเพื่อเตรียมพร้อมสำหรั บโลกธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยื นอีกด้วย
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานคณะกรรมการ บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า “เจดี เซ็นทรัล เล็งเห็นศักยภาพและการเติ บโตของตลาดอีคอมเมิร์ ซในประเทศไทยจึงได้ร่วมมือกั บหน่วยงานภาครัฐ และสถานศึกษาต่างๆเพื่อลงนามบั นทึกข้อตกลงความร่วมมือในครั้ งนี้ มีวัตถุประสงค์ที่จะสนับสนุ นและผลักดันเศรษฐกิจไทยควบคู่ ไปกับการขับเคลื่อนการเติ บโตของอีคอมเมิร์ซอย่างต่อเนื่ องในปัจจุบันให้ก้าวขึ้นไปอยู่ บนเวทีโลก ที่ผ่านมาเราได้เปิดร้านค้ าแฟลกชิพสโตร์ บนแพลทฟอร์ม เจดีดอทคอม เพื่อทำการจำหน่าย และส่งออกสินค้าไทยไปสู่ ประเทศจีน และยังได้นำเสนอไอทีโซลูชั่นส์ ที่ล้ำหน้าด้วยเทคโนโลยีในเรื่ องของโลจิสติกส์ และห่วงโซ่อุปทานให้แก่หน่ วยงานภาครัฐ อันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้ างระบบสาธารณูปโภคนอกจากนี้ยั งรวมถึงการเพิ่มทักษะทางด้านดิ จิทัลให้กับบุคลากรและนักศึ กษาไทยเพื่อสร้างการพัฒนาบุ คลากรแบบยั่งยืน และเติมเต็มระบบนิเวศน์ ของวงการอีคอมเมิร์ ซในประเทศไทยให้สมบูรณ์อีกด้วย”
นางคริสทีน หว่อง รองกรรมการบริหารฝ่ายรัฐสัมพั นธ์ระหว่างประเทศ เจดีกรุ๊ป กล่าวว่า “ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาเราได้พัฒนาชีวิ ตของผู้คน รวมถึงการค้าปลีก และโครงสร้างพื้นฐานในประเทศจีน ผ่านอีคอมเมิร์ซและนวัตกรรมใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง เราทำให้ผู้คนเห็นว่าเทคโนโลยี ที่เรามุ่งมั่นพัฒนาใช้ในชีวิ ตประจำวันได้จริง ทั้งนี้เราเชื่อว่าการร่วมมือกั บ DITP depaและ เจดี เซ็นทรัล จะสามารถพัฒนาผู้บริโภคและผู้ ประกอบการในประเทศไทยได้เฉกเช่ นเดียวกันกับประเทศจีน พร้อมกันนี้ยังเป็นการผลักดันอุ ตสาหกรรมไทยสู่นโยบาย Thailand 4.0อย่างเต็มตัว และยังช่วยให้ผู้ ประกอบการไทยจำหน่ายสินค้าคุ ณภาพให้กับผู้บริโภคต่างประเทศ เป็นอีกช่องทางที่ช่วยผู้ ประกอบการ SME ให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกทาง”
ขอบเขตของความร่วมมือเชิงยุ ทธศาสตร์ระหว่าง เจดี เซ็นทรัลJD.com และ DITP มุ่งเน้นที่จะส่งเสริมการค้าอิ เล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนควบคู่ ไปกับการเพิ่มขี ดความสามารถในการแข่งขันของ SMEs ไทย ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้ธุ รกิจไทยมีส่วนร่ วมในตลาดโลกและการขายสินค้ าพรมแดนไปยังประเทศจีน มากกว่านี้ผู้ ประกอบการไทยสามารถเข้าถึ งตลาดจีนผ่านแพลตฟอร์มของ JD ได้อย่างง่ายดาย รวมถึงรับการฝึกอบรมเฉพาะด้าน ศึกษาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ ยวกับผู้บริโภค และ การชำระเงินแบบดิจิทั ลและการขนส่งสินค้า ทั้งนี้ การจับมือกันระหว่าง Thaitrade.com ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกรมส่ งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ทั้ งสองจะเป็นประโยชน์อย่ างมากสำหรับผู้ประกอบการ ยกตัวอย่างเช่น การจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้ ขายและผู้ซื้อ หรือแม้แต่การจัดโปรโมชั่นต่ างๆให้กับผู้บริโภคชาวจีนบน JD.comเพื่อเพิ่มยอดขายสินค้ าไทยในตลาดจีน
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่ างประเทศ (DITP) สังกัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าว "หนึ่งในกลยุทธ์ของ DITP คือการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่ออุ ตสาหกรรมไทยในฐานะผู้ผลิตและส่ งออก และในฐานะที่เราเป็นผู้ค้าอี คอมเมิร์ซรายสำคัญที่ให้ ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า เราเชื่อว่า เจดี เซ็นทรัล และ JD.com สามารถสร้างความน่าเชื่อถื อและความไว้วางใจจากผู้บริ โภคชาวจีนที่มีความต้องการสินค้ าคุณภาพดีได้ อย่างไรก็ตาม เราหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนและขับเคลื่ อนเศรษฐกิจในประเทศไทยท่ ามกลางกระแสดิจิทัลในปัจจุบั นให้ดียิ่งขึ้น"
นอกจากนี้ ความร่วมมือระหว่าง เจดี เซ็นทรัล JD.com และdepa มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยี และการแบ่งปันความรู้เฉพาะด้าน ข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้จะช่ วยสนับสนุนผู้ประกอบการและธุรกิ จภาคเทคโนโลยีดิจิทัลให้ สามารถพัฒนาวิธีจัดการจัดเก็ บขนส่ง (Logistics Solution) และระบบห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain System) โดยร่วมมือกับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จากัด ในขณะเดียวกัน ข้อตกลงฉบับนี้ยังกล่าวถึ งขอบเขตความร่วมมือในเรื่ องของระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ในคลังสินค้า ซึ่งจะเป็นการบุกเบิกการเพิ่มศั กยภาพและประสิทธิภาพการผลิ ตและการบริการด้านโลจิสติกส์ ในประเทศไทย หลังจากนี้จะมีการจัดตั้งศูนย์ การเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ (e-Learning Center) และโครงการนำร่องเมืองอัจฉริยะ (Smart Cities Initiatives) โดย เจดี เซ็นทรัล และJD.com เพื่อรองรับวิทยาการต่างๆ หรือ Know-How ในอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ โครงการเหล่านี้จะช่วยเพิ่มทั กษะที่จำเป็นให้ธุรกิจอีคอมเมิ ร์ซในไทยและสร้างความรู้ ความชำนาญด้านเทคโนโลยี และยังช่วยทำให้ผู้ ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจได้ อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ดร. ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริ มเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิ จและสังคม กล่าวว่า "ตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 depa มีพันธกิจที่จะพัฒนาโครงสร้างพื้ นฐานและยกระดับขีดความสามารถเชิ งดิจิทัลที่เป็นประโยชน์ต่ อเศรษฐกิจและสังคมไทย ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ เราจะใช้นวัตกรรม e-learning logistics ของJD.com และ เจดี เซ็นทรัล ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิ จอีคอมเมิร์ซไทยที่กำลังเติ บโตอย่างต่อเนื่อง สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ เกิดนวัตกรรมต่างๆ และสร้างประโยชน์จากการพัฒนามิ ติทางสังคมและเศรษฐกิจไปพร้ อมๆกัน"
ในขณะเดียวกันความร่วมมือระหว่ าง เจดี เซ็นทรัล กับ มหาวิทยาลัยหอการค้าก็ยังเป็นกุ ญแจสำคัญในการผลักดันการศึ กษาไทยให้เตรียมพร้อมเข้าสู่ยุ คดิจิทัลอย่างเต็มตัว เจดี เซ็นทรัล ไม่เพียงแค่ส่งเสริมให้นักศึ กษาในยุคปัจจุบันมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องของอีคอมเมิ ร์ซมากยิ่งขึ้น แต่ยังสร้างศูนย์การเรียนรู้ และศูนย์การดำเนินงานเพื่อให้นั กศึกษารวมถึงบุคลากรได้สัมผั สนวัตกรรมล้ำสมัย ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิ ษฐ์ Artificial Intelligence หรือ AI และเทคโนโลยีที่ไม่ใช้คน (Autonomous Technology) เป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้ างความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ การเรียนรู้ดิจิทัลผ่านกิ จกรรมการเรียนการสอนของมหาวิ ทยาลัย
รองศาสตราจารย์ ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้ านการค้าและธุรกิจบริการที่เปิ ดสอนหลักสูตรวิศวกรรมโลจิสติกส์ เป็นแห่งแรกในประเทศไทย และไม่หยุดที่จะพัฒนานักศึ กษาให้เข้าสู่ยุค Smart Logistics ในขณะเดียวกันได้ให้ความสำคัญกั บการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และอีคอมเมิร์ซสำหรับผู้ ประกอบการไทย และนักศึกษามาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น เรามีโครงการอบรมเสริมสร้างทั กษะด้านการธุรกิจ อีคอมเมิร์ซเพื่อเตรียมความพร้ อมให้กับนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ให้สามารถทำธุรกิจอีคอมเมิร์ ซได้หลังจากจบการศึกษา การลงนามความร่วมมือกับ เจดี เซ็นทรัล ช่วยตอกย้ำความมุ่งมั่นของมหาวิ ทยาลัยในการส่งเสริมให้นักศึ กษาได้เข้าใจในวิธีการทำงาน ทั้งด้านดิจิทัล อีคอมเมิร์ซ รวมถึงโลจิสติกส์ และได้รับประสบการณ์ที่มีค่ าจากการทำงานจริงกั บสถานประกอบการ ผ่านหลักสูตรWiL (Work – integrated Learning) การจัดการศึกษาเชิงบูรณาการกั บการทำงาน”
นอกเหนือจากการร่วมมือกับ DITP, depa และ UTCC แล้ว เจดี เซ็นทรัล และ JD.com มีความพยายามอย่างยิ่งในการสนั บสนุนเศรษฐกิจและการพั ฒนาระบบการค้าดิจิทัลของไทย เมื่อไม่นานมานี้ เจดี เซ็นทรัล ได้เปิดตัว JD Thailand Official Flagship Store (thailand.jd.hk) ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าคุ ณภาพของประเทศไทยบน JD.com ในเดือนมิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซทั้ งสองคาดว่า JD Thailand Official Flagship Store จะเป็นประตูบานสำคัญที่ส่งออกสิ นค้าไทยไปยังประเทศจีน ปัจจุบันบนเว็บไซต์มีหมวดหมู่สิ นค้าทั้งหมด 5 ประเภทที่เป็นที่นิยมในหมู่ผู้ บริโภคชาวจีน ประกอบไปด้วย สินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม อาหารและเครื่องดื่ม บ้านและของใช้ในบ้าน และ โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมสู งสุดบนร้านค้า ได้แก่ หมอนยางพาราและทุเรียนอบแห้ง
No comments:
Post a Comment